 ลิ้นจี่บั๊กยางได้จำหน่ายในแพลตฟอร์มอี - คอมเมิร์ซ Voso |
ปีนี้เป็นปีแรกที่ลิ้นจี่บั๊กยางได้จำหน่ายใน 6 แพลตฟอร์มอี - คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในเวียดนามคือ Sendo, Voso, Tiki, Shopee, Lazada, Postmart และบูธขายสินค้าเวียดนามออนไลน์ของกรมการค้าอิเล็กทรอนิกและเศรษฐกิจดิจิทัลสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่ keyword “ ลิ้นจี่บั๊กยาง” ได้ปรากฎในแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของสถานประกอบการในการร่วมมือกับทางการท้องถิ่นและสหกรณ์ปลูกลิ้นจี่ที่จังหวัดบั๊กยางเพื่อผลักดันการจำหน่ายลิ้นจี่ผ่านแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซ ที่น่าสนใจคือ ก่อนงาน “เทศกาลลิ้นจี่”เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา แพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซต่างๆได้ร่วมกันจัดโปรโมชั่นขายลิ้นจี่ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรจำหน่ายลิ้นจี่ให้ได้มากที่สุด “เราได้หารืออย่างใกล้ชิดกับเกษตรกรเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ เช่นการ Livestream ขายสินค้า ซึ่งในตอนแรก เกษตรกรยังไม่คุ้นเคยแต่หลังจากที่ลองทำและได้รับคำแนะนำโดยเฉพาะการดูตัวอย่างบนโทรทัศน์และวิทยุ เกษตรกรก็มีความเชื่อมั่นต่อช่องทางขายสินค้าใหม่นี้”
“อุปสรรคในการช่วยเกษตรประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลคือความเชื่อมั่นเพราะเราต้องพยายามทำให้เกษตรกรเห็นประสิทธิภาพ ถึงจะลงทุนยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบธุรกิจ”
สำหรับประสิทธิภาพในการขายสินค้าเกษตรผ่านแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซในเวลาที่ผ่านมา นาย เหงียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ย้ำว่า “การที่จังหวัดบั๊กยางและท้องถิ่นหลายแห่งที่มีสินค้าเฉพาะถิ่นประสานงานในเชิงลึกปฏิบัติรูปแบบการประกอบธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่คือแนวทางที่ถูกต้อง เป็นการเข้าถึงและการแก้ไขปัญหาอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในท้องถิ่นบางแห่ง หวังว่า ไม่เพียงแต่ลิ้นจี่เท่านั้น หากสินค้าเฉพาะถิ่นอื่นๆก็จะสามารถประยุกต์ใช้วิธีนี้เพื่อช่วยให้การประกอบธุรกิจมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต”
การที่แพลตฟอร์มอี –คอมเมิร์ซต่างๆสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าเกษตรได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของการค้าขายออนไลน์และการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในสภาวการณ์เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งในเวลาข้างหน้า การค้าขายแบบนี้จะพัฒนาอย่างรวดเร็วมากขึ้นเพราะว่า ตัวแทนของสถานประกอบการอี – คอมเมิร์ซต่างยืนยันว่า ไม่เพียงแต่ใช้โอกาสจากการเปลี่ยนแปลงความคุ้นเคยในการค้าขายของผู้บริโภคและตลาดเพื่อเพิ่มรายรับ กำไรและครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเท่านั้น หากยังร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนการประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าเวียดนามในทั่วโลกอีกด้วย นาย เจิ่นจุงฮึง ประธานคณะกรรมการผู้บริหารและผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท Viettel Post ซึ่งเป็นบริษัทที่สนับสนุนเกษตรกรทั้งในด้านโลจิสติกส์และการประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซ “หวอส่อ” และเป็นตัวแทนของแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซ Lazada, Shopee, Tiki, Postmart และ Sendo ได้ยืนยันว่า “ การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลถือเป็นโอกาสเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและยาวนาน พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรเวียดนามในตลาดภายในประเทศ ในภารกิจร่วมแรงร่วมใจกับประเทศในการผลักดันกระบวนการนี้ สถานประกอบการอี – คอมเมิร์ซได้พยายามในทุกด้าน ทั้งการสร้างสรรค์ตลาดที่โปร่งใสเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนโดยในตอนแรก สถานประกอบการได้ประสานงานกับกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจจัดทำ “บูธขายสินค้าเวียดนามออนไลน์ทั่วประเทศ”ในแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซต่างๆ เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าได้พบปะกันผ่านรูปแบบใหม่ๆ นอกจากนี้แพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซยังจัดโครงการโปรโมชั่นต่างๆเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและผลักดันการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้วย”
ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า แพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซคือเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับความคาดหวังว่านี่จะเป็นรูปแบบเศรษฐกิจชั้นนำในอนาคต นี่คือเหตุผลที่สถานประกอบการหลายแห่งกำลังระดมพลังทุกแหล่งในการแข่งขันนี้ ในสภาวการณ์ดังกล่าว การที่สถานประกอบการได้ประสานงานและสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าเวียดนามทั้งในตลาดภายในประเทศและทั่วโลกคือกิจกรรมที่มีความหมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อประชาคม นักธุรกิจและสถานประกอบการที่กำลังประกอบธุรกิจในด้านนี้ของเวียดนามควรใช้โอกาสนี้เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายและประชาสัมพันธ์สินค้าและเครื่องหมายการค้าผ่านระบบนิเวศอี - คอมเมิร์ซของประเทศเวียดนามมากขึ้น./.