ค้ำประกันแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยให้จีดีพีเวียดนามขยายตัวอย่างยั่งยืน

Chia sẻ
(VOVWORLD) -รายงานของทบวงสถิติเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ – สังคมเวียดนามใน 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2020 ปรากฎว่า การขยายตัวจีดีพีบรรลุร้อยละ 2.12 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีแต่ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในทั่วโลก นี่ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจและช่วยให้เวียดนามติดอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกของการฟื้นฟูเศรษฐกิจตามการจัดอันดับขององค์กรการจัดอันดับความไว้วางใจ S&P Global Ratings หรือ S&P
ค้ำประกันแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยให้จีดีพีเวียดนามขยายตัวอย่างยั่งยืน - ảnh 1

การควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพคือประเด็นแรกที่ช่วยให้เวียดนามพ้นจากภาวะ “เว้นระยะห่างทางสังคม” มาสู่ “ชีวิตวิถีใหม่” โดยปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการแพร่ระบาดควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ในการประชุมคณะกรรมการประจำรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ได้กำชับให้ปฏิบัติ “ชีวิตวิถีใหม่” ในขณะที่ทั่วโลกยังไม่มีวัคซีนและยารักษาโรคโควิด -19 ซึ่งหมายความว่า เราต้องรับมือการแพร่ระบาดในระยะยาวควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม ในการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีและในสภาวการณ์ที่กว่า 210 ประเทศกำลังต้องรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยเฉพาะ 10 เศรษฐกิจรายใหญ่ของโลกที่เป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจรายใหญ่ของเวียดนามได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาด หน่วยงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้เร่งปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อพัฒนาการผลิตควบคู่กับการปฏิรูปโครงสร้าง แก้ไขอุปสรรค์ในตลาดภายในประเทศ ขยายและแสวงหาตลาดใหม่ๆ สร้างความหลากหลายให้แก่สินค้าส่งออกเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศต่างๆ นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ย้ำว่า “เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีสองปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือสถานประกอบการและผู้บริโภค ดังนั้นเราต้องแก้ไขอุปสรรคให้แก่สองปัจจัยนี้เพื่อค้ำประกันให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รัฐและสำนักงานที่เกี่ยวข้องต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานประกอบการและผู้ที่ประกอบธุรกิจสามารถฟันฝ่าอุปสรรค ฟื้นฟูการผลิตและประกอบธุรกิจต่อไป นอกจากนี้ เราก็เห็นว่า สถานประกอบการส่วนใหญ่ได้ประสบอุปสรรคด้านตลาด จึงต้องมีมาตรการแก้ไขในด้านนี้เพื่อให้สถานประกอบการประกอบกลับมาธุรกิจได้เหมือนเดิม”

การผลักดันการเบิกจ่ายเงินทุนภาครัฐคือจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีได้ประกาศมติกำหนดหน้าที่และมาตรการที่เร่งด่วนเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิต การประกอบธุรกิจและค้ำประกันสวัสดิการสังคมในสภาวการณ์ที่ต้องรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เพราะการลงทุนภาครัฐคือมาตรการสำคัญที่ช่วยให้เวียดนามฟันฝ่าอุปสรรค พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระดมการเข้าร่วมของภาคเอกชนและภาคเศรษฐกิจที่ใช้เงินลงทุนจากภาครัฐเพื่อผลักดันการผลิต ประกอบธุรกิจ การขยายตัวของเศรษฐกิจ สร้างงานทำและมีส่วนร่วมต่องบประมาณแผ่นดิน

บรรดาผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจยืนยันว่า การขยายตัวของจีดีพีในปีนี้อาศัยการลงทุนภาครัฐเป็นอย่างมาก โดยในตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา การเบิกจ่ายเงินลงทุนทั่วประเทศได้บรรลุกว่าร้อยละ 50 ของแผนที่วางไว้ นาย เหงียนดิ่งกุง สมาชิกสภาให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีให้ข้อสังเกตว่า การลงทุนภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการวางมาตรฐานให้แก่เศรษฐกิจมหภาค มีส่วนร่วมรักษาความมีเสถียรภาพและลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวและลดความไม่เท่าเทียมกันในสังคม“นี่คือการชี้นำอย่างเด็ดขาดของนายกรัฐมนตรีแต่ผมยังหวังว่า การเบิกจ่ายเงินลงทุนมีขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดและสามารถเบิกได้ทั้งหมดเพื่อสร้างผลประโยชน์มากที่สุดให้แก่เศรษฐกิ ท้องถิ่นและหน่วยงานต่างๆอย่างทันท่วงที”

ส่วนปัจจัยที่ 3 คือการเป็นฝ่ายรุกและความพยายามของภาคเอกชน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในการส่งออก ในสภาวการณ์ที่โรคโควิด -19 แพร่ระบาดในทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศถูกระงับแต่การส่งออกสินค้าของเวียดนามยังคงเป็นบวก ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกอยู่ที่เกือบ 3 แสน 8 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าการส่งออกบรรลุเกือบ 2 แสน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 และได้เปรียบดุลการค้าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเกือบ 1 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าที่ช่วยเพิ่มยอดการขยายตัวของการส่งออกคือ ข้าว กาแฟและรองเท้า เนื่องจากมีปริมาณการส่งออกไปยังตลาดอียูเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีและราคาจากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียูหรืออีวีเอฟทีเอที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมปี 2020 นาย ฝ่ามเติ๊ดทั้ง ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการค้าแสดงความคิดเห็นว่า “มีสัญญาณที่น่ายินดีเป็นอย่างมากเพราะตลาดอียูเป็นตลาดที่มีมาตรฐานเข้มงวด แต่เราก็สามารถนำสินค้าที่เป็นจุดแข็ง เช่น ข้าว เจาะตลาดนี้ได้ด้วยภาษีร้อยละ 0 นอกจากนี้ เราก็สามารถส่งออกสินค้าอื่นๆได้ด้วย เช่น กาแฟและเสาวรส ในขณะที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในทั่วโลก สินค้าของเวียดนามได้ถูกวางขายในห้างสรรพสินค้าต่างๆของอียูมากขึ้น และนับวันส่งออกมากขึ้น แม้กระทั่งบางคนให้ข้อสังเกตว่า “สินค้าเวียดนามล้นห้างสรรพสินค้าอียูในช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา” นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก”

ในการปฏิบัติมาตรการต่างๆทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค รวมทั้งมาตรการเร่งด่วน นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือมูลค่า 62 ล้านล้านด่งเพื่อช่วยเหลือคนจน ผู้ที่ได้รับผลกระทบ แรงงานที่ไม่มีสัญญาจ้าง สถานประกอบการ โรงงานผลิตสินค้า พ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่า มาตรการเหล่านี้ของรัฐบาล กระทรวงและท้องถิ่นได้ช่วยให้เวียดนามรักษาความสมดุลของเศรษฐกิจ ค้ำประกันเป้าหมายคือพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพและพยายามให้จีดีพีของเวียดนามในปี 2020 บรรลุกว่าร้อยละ 2.

คำติชม