ศิลปิน หวี่วันจื๋อ อนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมการทำเก้าอี้หวาย |
นี่คือครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสไปเที่ยวหมู่บ้านด๋อย ตำบลเตินเหลิบ อำเภอหมกโจว์ จังหวัดเซินลา และได้ชมการสานเก้าอีหวายที่ทั้งสวยงามและมีรูปแบบที่หลากหลายของคุณ หวี่วันจื๋อ คุณ แค้งอาน กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “การทำเก้าอี้แบบนี้ของคุณ หวี่วันจื๋อมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เก้าอี้สวยจริงๆ ทนทานแข็งแรง ฉันประทับใจมาก นี่ไม่ใช่เก้าอี้ธรรมดา เพราะมันมีเทคนิคต่าง ๆซ่อนอยู่ด้วย น่าสนใจมาก”
ศิลปิน หวีวันจื๋อ เผยว่า เพื่อสานเก้าอี้หวายได้หนึ่งตัว เขาต้องเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกต้นหวายที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปเพราะมีลำต้นสูงและมีความยืดหยุ่นมากพอสมควร “เราต้องเข้าป่าเลือกต้นหวายที่ยืดหยุ่นเพื่อนำมาทำเส้นเส้นหวายต้องนำไปตากให้แห้งแล้วจะนำไปต้มเพื่อให้เส้นหวายมีความยืดหยุ่น ง่ายต่อการนำไปสาน หลังตากแห้งแล้วก็นำมาวัดขนาดแล้วตัดให้ได้ขนาดตามต้องการ หลังจากนั้นก็นำมาสานกับที่รองนั่งก่อนเพื่อให้มีความแข็งแรง แล้วค่อยสานส่วนอื่นๆต่อให้เสร็จเรียบร้อย”
ทุกขั้นตอนในการทำเก้าอี้หวายต้องทำอย่างรอบคอบ หลังจากทำเสร็จ เก้าอี้จะถูกตากบนเตาไฟฟืนประมาณ 1 สัปดาห์ ล้างด้วยน้ำแล้วจะได้เก้าอี้หวายที่มีสีดำเป็นเงางาม นี่คือสีดำที่จากควันไฟ ไม่ใช่สีจากสารเคมี แต่ละครั้งที่ดูเก้าอี้หวายของศิลปินหวี่วันจื๋อ คุณห่าวันเขย ชาวบ้านในหมู่บ้านด๋อย รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก “ศิลปิน หวี่วันจื๋อเป็นศิลปินมืออาชีพ โดยสามารถอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวไทได้เป็นอย่างดี ในบ้านของชาวไท มักจะมีเก้าอี้หวายที่เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นสิ่งของที่ขาดไม่ได้ในแต่ละบ้านของคนเผ่าไท”
สำหรับชนเผ่าไท เก้าอี้หวายไม่เพียงแต่เป็นของใช้ในบ้านเท่านั้น หากยังมีเอกลักษณ์วัฒนธรรมทางจิตวิญญาณและถูกใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย เพราะเก้าอี้หวายเป็นเหมือนพยานในวันแต่งงานของชาวไท เหมือนเทพที่ปกป้องดูแลลูกสาวในฐานะลูกสะใภ้คนใหม่ เมื่อเสียชีวิตไปก็ต้องมีเก้าอี้หวายติดตัวไปด้วย โดยชาวเผ่าไทจะวางเก้าอี้หวายไว้ในสุสานของผู้เสียชีวิต
สำหรับผู้จักสานที่มีประสบการณ์ แต่ละเดือนจะสามารถทำเก้าอี้หวายได้ประมาณ 25-35 ตัว ขายในราคาประมาณ 350,000 ต่อตัว ดังนั้นในเวลาว่างงานระหว่างการทำเกษตร เกษตรกรมักจะทำเก้าอี้หวายเพื่อสร้างรายได้เสริม ปัจจุบันนี้ การขายเก้าอี้หวายดีกว่าก่อนเนื่องจากการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้น ส่วนความต้องการในตลาดก็นับวันค่อยๆสูงขึ้น ศิลปิน หวี่วันจื๋อ พร้อมที่จะถ่ายทอดประสบการณ์และสอนการทำเก้าอี้หวายให้แก่คนรุ่นหลัง
หมู่บ้านด๋อยของศิลปิน หวี่วันจื๋อ กำลังเปลี่ยนโฉมอย่างรวดเร็วด้วยแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน ดังนั้น เก้าอี้หวายไม่เพียงแต่เป็นสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันของชาวไทเท่านั้น หากยังเป็นของฝากที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งเก้าอี้หวายของศิลปินหวี่วันจื๋อและศิลปินคนอื่นๆในจังหวัดเซินลาได้มีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าไทและสร้างรายได้เสริมให้แก่ชาวเผ่าไท.