บริษัทเตินเงียนทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ปัญหามลพิษจากน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วเป็นการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนมากเพราะมีการใช้สารเพิ่มคุณภาพนับร้อยชนิด ดังนั้น การแก้ไขปัญหามลพิษจากน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วจึงมีความยุ่งยาก ต้องใช้เวลาและเงินทองมากมาย ด้วยความปรารถนาที่ต้องการช่วยแก้ปัญหาน้ำมันหล่อลื่นที่รั่วไหลลงแม่น้ำและทะเลเนื่องภัยพายุ น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งรับมือปัญหาน้ำเสียในเมืองในเชิงรุกและประหยัดค่าใช้จ่าย บริษัทหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนเตินเงวียนได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อผลิตถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์เพื่อช่วยบำบัดน้ำเสีย
บริษัทเตินเงียนทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม - ảnh 1นาย หวูจุงเกียน กับพนักงานของบริษัทฯ ในงาน Techfest 2019

 
บริษัทเตินเงวียน ได้ทำธุรกิจสตาร์ทอัพโดยใช้ผลงานวิจัยต่างๆที่เข้าร่วมการประกวดที่จัดโดยสถานทูตสหรัฐประจำเวียดนามเมื่อปี 2018 ซึ่งรวมทั้งผลงานวิจัยเกี่ยวกับถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ ในปี 2019 ทางบริษัทได้ร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ 2 ชนิดสำหรับการกำจัดคราบน้ำมัน ซึ่งเป็นพันธุ์เฉพาะของเวียดนามที่สามารถกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลและไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นาย หวูจุงเกียน ผู้อำนวยการบริษัทเตินเงวียนเผยว่า            “จุลินทรีย์สองชนิดนี้ต้องการที่อยู่เพื่อขยายพันธุ์และเจริญเติบโต ดังนั้นเราได้ใช้ไบโอชาร์เป็นที่อยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยสลายน้ำมัน ถ้าหากเราฉีดจุลินทรีย์ในบริเวณสภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษโดยตรง ก็ได้ผลน้อยกว่าร้อยละ 40-50 ในการวิจัยดังกล่าว เราได้ใช้ถ่านชีวภาพ ซึ่งหาได้ง่ายในเวียดนามเพราะผลิตจากขยะการเกษตรที่มีต้นทุนถูกเพื่อใช้เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ นี่ถือเป็นความได้เปรียบของเวียดนาม”

หลังการวิจัย ทางบริษัทได้ทดลองใช้จุลินทรีย์สองชนิดนี้เพื่อย่อยสลายน้ำมันในแหล่งน้ำใกล้คลังเก็บน้ำมันและปิโตรเลียม ห่าเซินบิ่งห์ ซึ่งเป็นคลังเก็บน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือเวียดนาม โดยได้ผลที่น่ายินดีเพราะช่วยกำจัดคราบน้ำมันในแหล่งน้ำได้สะอาดในระดับเอ อีกทั้งสามารถย่อยสลายสารพิษจากน้ำมันในแหล่งน้ำได้ร้อยละ 95-98 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศสามารถย่อยสลายได้ร้อยละ 60 เท่านั้น            “ผลการวิจัยทำให้เรารู้สึกดีใจและแปลกใจมากต่อัตราการรอดชีวิตและประสิทธิภาพของจุลินทรีย์สองชนิดนี้ นี่คือสิ่งที่เรากำลังมุ่งหวัง แล้วก็ตั้งใจนำผลิตภัณฑ์นี้มาเผยแพร่ในตลาดเวียดนามและโลก”

ถ้าหากเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเตินเงวียนมีราคาถูกกว่าหลายเท่าเพราะว่า ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศเป็นแบบเหลว ไม่มีโฮสต์เพื่อขยายพันธุ์จุลินทรีย์ และราคาขายก็อยู่ที่ 10-15 ดอลลาร์ต่อลิตร แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเตินเงวียนที่ใช้ถ่านชีวภาพ มีราคาประมาณ 4 ดอลลาร์ต่อลิตรซึ่งถูกกว่าถึง 3 เท่า

นาง หวูถิเหื่อง ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาโครงการและชุมชนของศูนย์บ่มเพาะการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ BK – Holdings แสดงความคิดเห็นว่า นี่คือโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวียดนาม            “ฉันเห็นว่า คุณหวูจุงเกียน ผู้อำนวยการของบริษัทและหุ้นส่วนได้ทุ่มเทพัฒนาโครงการนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งในการเข้าร่วมสัมมนาต่างๆ ฉันก็เห็นบริษัทนำผลิตภัณฑ์นี้มาแนะนำต่อนักลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและเห็นศักยภาพของผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจให้การสนับสนุนโครงการ”

ในเวลาข้างหน้า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯจะได้รับการแนะนำและใช้ที่คลังเก็บน้ำมันต่างๆทั่วประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนาม ศูนย์นวัตกรรมเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเวียดนามและธนาคารโลก ซึ่งการสนับสนุนต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทและนักวิจัยมีความมั่นใจมากขึ้นต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นมา./.

คำติชม