 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 (Photo: กระทรวงกลาโหม) |
อุปสรรคและเงื่อนไขที่เข้มงวดเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ชุดที่ 1 ทุกคนต่างกล่าวถึงเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเขต Bentil ประเทศซูดานใต้ ซึ่งเป็นเขตที่เกิดการปะทะที่อันตราย ในตลอด 1 ปีที่ร่วมกับเพื่อนสหายปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลภาคสนามระดับ 2 ในประเทศซูดานใต้ ประสบการณ์ที่ร้อยตรี เหงวียนถิทูจางจำได้ดีที่สุดคือการผ่าตัดให้แก่ทหารชาวมองโกเลียที่ติดเชื้อในลำไส้เฉียบพลันภายใต้เงื่อนไขที่ขาดแคลนทุกอย่าง ซึ่งการผ่าตัดดังกล่าวได้ประสบความสำเร็จเกินกว่าความคาดหวังและถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จของโรงพยาบาลภาคสนามในเขต Bentil
ร้อยตรี เหงวียนถิทูจางไม่เคยลืมสภาพอากาศที่ร้อนจัดถึง 50 องศาเซลเซียส เหตุน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักและการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลภาคสนามต้องปรับตัวและดูแลสุขภาพของตนเองเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดูแลสุขภาพให้แก่กองกำลังต่างๆและประชาชนในท้องถิ่น
นอกจากการเข้าเวร บรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างๆยังได้ไปที่ค่ายผู้ลี้ภัยเพื่อตรวจรักษาโรคและแจกยาฟรี แจกอาหาร ขนมลูกอม เล่นกับเด็กๆในท้องถิ่น รวมทั้ง สอนวิธีปลูกผักให้แก่ชาวบ้านซึ่งความเป็นมิตรของเจ้าหน้าที่ทหารโรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ได้สร้างความประทับใจให้แก่ชาว Bentil ร้อยเอก เหงวียนห่งหาย ได้เผยว่า “ผมเห็นว่า ชีวิตของชาวบ้านที่นี่ประสบอุปสรรคเป็นอย่างมาก พวกเราอยากช่วยเหลือประชาชนที่นี่ให้ได้มากที่สุด”
ส่วนร้อยตรี เจิ่นวันอานได้เล่าถึงความทรงจำว่า
“เมื่อพวกเรามา ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ของประเทศอื่นๆดีใจเป็นอย่างมากเพราะพวกเราเป็นมิตรและช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่ ชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่ทหารเวียดนามกลับตรวจรักษาโรคให้แก่พวกเขา เมื่อพวกเราเตรียมกลับประเทศ ชาวบ้านได้มาอำลาและก็มีบางคนร้องไห้”
นอกเวลาทำงาน บรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ชุดที่ 1 ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติและประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งพวกเขาต่างมีความภาคภูมิใจที่เป็นคนเวียดนาม ร้อยตรี เหงวียนถิทูจางเผยต่อไปว่า
“ชาวบ้านรักชาวเวียดนามเป็นอย่างมาก ถ้าหากตอบว่า เราเป็นคนเวียดนาม พวกเขาก็ขอถ่ายภาพด้วย ดิฉันมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่เป็นคนเวียดนาม”
ทางการท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ทหารของประเทศต่างๆที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในประเทศซูดานใต้ต่างมีความประทับใจต่อสถานที่ตั้งโรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ของเวียดนาม จากที่เคยเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ภายหลังกว่า 1 ปี บรรดาเจ้าหน้าที่ทหารเวียดนามได้ปลูกสวนผัก ดอกไม้และต้นไม้ต่างๆ ซึ่งโรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ได้กลายเป็นรูปแบบเพื่อให้กองกำลังต่างๆปฏิบัติตาม ในโอกาสเทศกาลปีใหม่และการพบปะสังสรรค์ บรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลยังแนะนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมและอาหารเวียดนามต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ พันตรี แพทย์หญิง บุ่ยถิซวาได้เผยว่า
“ ในวันงานต่างๆที่สหประชาชาติจัดขึ้น บรรดาสมาชิกของโรงพยาบาลได้แสดงรายการศิลปะ และแนะนำอาหารของเวียดนาม เช่น ปอเปี๊ยะทอดและหมูยอต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ”
ภายหลังปฏิบัติหน้าที่กว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ชุดที่1 ได้ตรวจรักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยกว่า 2 พันคน รวมทั้ง เคสที่มีอาการรุนแรง ซึ่งช่วยยกระดับชื่อเสียง คุณภาพการตรวจรักษาโรคของหน่วยเสนารักษ์เวียดนามและได้รับการชื่นชมจากสหประชาชาติ พันโท บุ่ยดึ๊กแถ่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภาคสนามหมายเลข 2 ชุดที่ 1 ได้เผยว่า
“พวกเราอยากแสดงจิตใจแห่งทหารลุงโฮ จิตใจของทหารหน่วยเสนารักษ์การปฏิวัติ ยืนยันสถานะและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของเวียดนามต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ ซึ่งเราก็ทำได้สำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 1 ปี ”
เจ้าหน้าที่ทหาร 63 นายของโรงพยาบาลภาคสนามระดับ 2 ชุดที่ 1 ได้ส่งเสริมความสามัคคี ฟันฝ่าอุปสรรคและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดี แสดงความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบของประชาชาติที่ใฝ่สันติภาพ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคำมั่นของเวียดนามในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก.