 หมู่เกาะเจื่องซาได้มีการเปลี่ยนแปลง (Photo: หนังสือพิมพ์กองทัพเรือ) |
ในหลายวันที่ผ่านมา บ้านของครอบครัวนาง เจิ่นถิมิงกุ๊กที่อำเภอเมืองเกาะเจื่องซาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบนเกาะมาบ้านของนางกุ๊กเพื่อฝึกร้องเพลงเตรียมให้แก่วันงานใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะวันปลดปล่อยเจื่องซา ซึ่งตรงกับวันที่ 29 เมษายน และวันปลดปล่อยภาคใต้ 30 เมษายน นางกุ๊กเผยว่า เมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการกีฬาในโอกาสนี้ ตัวเธอและชาวบ้านบนเกาะต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนบนเกาะได้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ทุกคนร่วมกันปกป้องและสร้างสรรค์เกาะให้นับวันพัฒนา
“ตามคำเรียกร้องของรัฐ ดิฉันและสามีตัดสินใจย้ายไปอยู่อาศัยบนเกาะเพื่อมีส่วนร่วมปกป้องเกาะแก่งของประเทศ ครอบครัวดิฉันปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้อย่างรวดเร็วเพราะสภาพอากาศที่นี่แตกต่างกับบนแผ่นดินใหญ่ไม่มากนัก ลูกของเรามีสุขภาพแข็งแรง บนเกาะ เด็กๆที่มีอายุ 4 ขวบขึ้นไปจะได้ไปโรงเรียน ประชาชนได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน ถ้าหากประชาชนประสบอุปสรรคใดๆ เจ้าหน้าที่ทหารบนเกาะก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
เมื่อ 46 ปีก่อน ด้วยการตัดสินใจอย่างถูกต้อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการกลางพรรคและกระทรวงกลาโหมต่อปัญหาอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่ง กองทัพเรือได้ประสานงานกับกองทัพภาคที่ 5ทำการปลดปล่อยเกาะต่างๆสังกัดอำเภอเกาะเจื่องซา เช่น ซองตื่อเตย เจื่องซาใหญ่ เซินกาและนามเอี๊ยด เป็นต้น ปัจจุบัน ทหารและประชาชนอำเภอเกาะเจื่องซาได้รับความสนใจลงทุนจากพรรค รัฐและกระทรวงกลาโหม ความช่วยเหลือของท้องถิ่นต่างๆ สถานประกอบการและประชาชนทั่วประเทศและชาวเวียดนามโพ้นทะเล
 ห้องเรียนบนเกาะซิงโต่น (Photo: หนังสือพิมพ์กองทัพเรือ) |
ปัจจุบัน ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนบนเกาะซิงโต่น เจื่องซาใหญ่และซองตื่อเตยไม่มีความแตกต่างกับชีวิตบนแผ่นดินใหญ่ บ้านต่างๆอยู่ใต้ร่มต้นหูกวาง หน้าบ้านคือสวนปลูกผักและผลไม้ ส่วนด้านล่างมีสุ่มไก่และสุ่มเป็ด อุปสรรคด้านน้ำประปา ผักและการติดต่อสื่อสารได้รับการแก้ไข พันเอก ท้ายด่ามเสา อดีตผู้บัญชาการกองพลน้อยเจื่องซา 146 ได้เผยว่า
“คนแต่ละรุ่นจะมีมุมมองที่แตกต่างกันแต่ผมเห็นว่า เกียรติประวัติของกองทัพและประชาชาติเรา ไม่มีสิ่งใดที่สามารถขัดขวางได้ ยืนหยัดฝึกฝนหล่อหลอมตนเอง รักษาคุณธรรมและคุณสมบัติของทหารแห่งการปฏิวัติ เสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ที่พรรคและรัฐมอบหมายให้ สานต่อเกียรติประวัติของคนรุ่นก่อนและตอบสนองความปรารถนาของประชาชนต่อเจื่องซา”
เพื่อให้เจื่องซามีบรรยากาศแห่งความสงบสุขเหมือน “เมืองกลางทะเล”ในปัจจุบัน ทหารของกองพลน้อย 146สังกัดกองทัพภาคที่ 4 ได้ยืนหยัดปกป้องเกาะแนวหน้า รักษาความมั่นคงในทะเล เพื่อปฏิบัติหน้าที่ปกป้องปิตุภูมิในสภาวการณ์ใหม่ กองพลน้อย 146ได้จัดการฝึกอบรมทางทหารผสานกับการปฏิบัติหน้าที่ รักษาระเบียบวินัย เพิ่มทักษะความสามารถในการใช้อาวุธที่ทันสมัยและการปฏิบัติหน้าที่ในสภาพอากาศที่ไม่อำนวย พันเอก เลืองซวนย๊าป หัวหน้าฝ่ายการเมืองแห่งกองพลน้อยเจื่องซา 146 ได้เผยว่า บทเรียนและประสบการณ์ของการปลดปล่อยเมื่อ 46 ปีก่อนยังคงมีคุณค่ามาตราบเท่าทุกวันนี้ ต้องเป็นฝ่ายรุกในการรับมือทุกกรณี ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งของปิตุภูมิ
“หน่วยของเราให้การศึกษาแก่ทหารผ่านภาพยนตร์สารคดี ภาพถ่ายและเอกสารต่างๆของคนรุ่นก่อนเพื่อให้ทหารมีความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบากของคนรุ่นก่อน ส่งเสริมความภาคภูมิใจเพื่อให้ทุกคนพยายามปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ให้สมกับการเป็นทหารเจื่องซา”
ภายหลัง 46 ปีที่ได้รับการปลดปล่อย ชีวิตความเป็นอยู่บนหมู่เกาะเจื่องซาได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยกิจการต่างๆ เช่น ประภาคาร ท่าเรือ หมู่บ้านชาวประมง ศูนย์บริการโลจิสติกส์ได้ช่วยค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่เรือต่างๆในทะเล สนับสนุนกิจกรรมการจับปลาและการซื้อขายสัตว์น้ำบนทะเลของชาวประมง เกาะต่างๆได้รับการลงทุนเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชน การที่อาศัยและทำงานบนเกาะที่ห่างไกลแผ่นดินใหญ่แม้จะประสบอุปสรรคไม่น้อยแต่ทหารและประชาชนเจื่องซายังส่งเสริมความสามัคคีและยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่การสร้างสรรค์และปกป้องหมู่เกาะให้นับวันพัฒนา.