ชาวเผ่าห่า หญี่โล้ชิงช้าในวันตรุษฤดูฝน

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ตรุษฤดูฝน (แจ๊ ขู่ ฉ่า) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่และสะท้อนวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างชัดเจนที่สุดของเผ่าห่า หญี่ ที่อำเภอเมือง แต จังหวัดลาย โจว โดยมีขึ้นในช่วงกลางฤดูฝนประมาณกลางเดือน 6 ตามจันทรคติ เมื่องานเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เสร็จสิ้นลง  ตรุษฤดูฝนเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน จัดงานรื่นเริง ทั้งยังเป็นโอกาสที่คนห่า หญี่ได้ทำพิธีขอบคุณบรรพบุรุษและดินฟ้าอากาศที่ดลบันดาลให้สภาพอากาศเอื้ออำนวย พร้อมกับขอให้ฤดูการทำนาต่อไปได้ผลอุดมสมบูรณ์  ในช่วงตรุษฤดูฝนนี้มีการละเล่นอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเผ่าห่า หญี่คือการโล้ชิงช้า
ชาวเผ่าห่า หญี่โล้ชิงช้าในวันตรุษฤดูฝน - ảnh 1

ชาวเผ่าห่า หญี่จัดงานตรุษฤดูฝนเป็นเวลา4วัน โดยในวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษหลังจากรับประทานข้าวเสร็จ คนในบ้านจะทำชิงช้ากลางบ้าน โดยเอาเชือกผูกไว้ที่คานของบ้าน สูงประมาณ 3 เมตร ห้อยลงมาสำหรับผูกไม้แผ่นให้คนนั่ง ชิงช้าเล็กนี้ทำไว้ทุกบ้านสำหรับเด็กๆ ในบ้านได้โล้ชิงช้าเล่น และขณะนี้มีชิงช้าขนาดใหญ่ สูง 6-7 เมตรกำลังถูกปลูกสร้างที่หน้าบ้านชนเผ่าห่า หญี่ในหมู่บ้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวกลุ่มชาติพันธุ์เวียดนาม ซึ่งเป็นชิงช้ารวมให้ทุกคนในหมู่บ้านมาเล่นด้วยกัน

หนุ่มสาวกำลังช่วยกันปลูกชิงช้า  สาวๆ ร้องเพลงให้กำลังใจหนุ่มคน 1 ชื่อหมะ ลี้ ฝะ ที่กำลังยืนผูกเชือกด้านบน การทำชิงช้าต้องมีต้นไผ่ 6 ต้นเพื่อทำขาชิงช้า แบ่งข้างละ 3 ต้น ด้านล่างถูกตอกลึกลงในดิน ด้านบนผูกไว้ด้วยกัน เพื่อรองรับไผ่อีกต้น 1 ที่วางแนวนอนเป็นคาน คานนี้สำหรับผูกเชือกเพื่อผูกไม้ด้านล่าง ไม้แผ่นนี้ต้องใหญ่และกว้างพอให้คนนั่งหรือยืนโล้ชิงช้าได้

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังทำชิงช้า ภรรยาคุณฝะเดินไปตัดกิ่งไม้มีหนามมาปักไว้ใต้ชิงช้า ตามความเชื่อของคนเผ่าห่า หญี่ กิ่งไม้มีหนามแหลมจะขับไล่ภูตผีปีศาจ ปกป้องคนที่มาเล่นโล้ชิงช้า  นางหวู เฟือง ถาว จากศูนย์ศิลปะจังหวัดลาย โจว อธิบายเรื่องนี้ว่า“กิ่งไม้มีหนามช่วยขับไล่ผีที่สิงในชิงช้า และภูตผีปีศาจที่อยู่แถวรอบๆ ก่อนที่ประชาชนจะมาโล้ชิงช้า เป็นความเชื่อของชนเผ่าเพื่อให้การละเล่นมีขึ้นอย่างราบรื่น ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ไม่มีคนล้มบาดเจ็บ”

ชาวเผ่าห่า หญี่โล้ชิงช้าในวันตรุษฤดูฝน - ảnh 2นางหวู เฟือง ถาว ยังเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับชิงช้าว่า“ในระหว่างการปลูกชิงช้าก็ไม่ถืออะไร แต่ก่อนที่ถูกนำมาปลูกเป็นชิงช้าจะห้ามไม่ให้ใครแตะต้อง ไม่ให้นั่งทับ ก่อนที่ประธานจะทำพิธีขับไล่ผีเสียก่อน” 

หลังจากที่ชิงช้าถูกปลูกเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นคนทำพิธีไหว้ผีชิงช้า นายหมะ ลี้ ฝะ ผู้ใหญ่บ้านเริ่มพิธีด้วยการผูกกิ่งไม้มีหนามแหลมไว้กับชิงช้า เขาผลักเชือกให้ชิงช้าแกว่งและอ่านบทสวด พร้อมกันนั้นกิ่งที่มีหนามจะหล่นลงไป หมายความว่าภูตผีปีศาจถูกขับไล่ออกไปแล้ว ทุกคนสามารถมาโล้ชิงช้าได้อย่างสบายใจ

นางก่อ ญู คนตำบลกา ลัง อำเภอเมือง แต มาเล่นโล้ชิงช้า บอกว่า การโล้ชิงช้าต้องมี 2 คน ซึ่งคนหนึ่งยืนและคนหนึ่งนั่ง และหากแรงดี แขนแข็งแรงจะยิ่งโล้ได้สนุก ยิ่งได้รับเสียงเชียร์จากคนดู“คนยืนต้องออกแรงให้ชิงช้าแกว่งได้สูง ถ้าแรงไม่พอจะทำให้โล้ได้ไม่สูง เรามีความเชื่อว่าถ้าคนห่า หญี่โล้ชิงช้าได้ยิ่งสูงยิ่งไกล ในปีนั้นเราจะยิ่งได้รับโชคลาภและสิ่งดีๆ ให้แก่ตัวเองและครอบครัว”

เมื่อคนเล่นกำลังโล้ชิงช้าไปนั้น ทุกคนที่อยู่ในที่นั่นจะส่งเสียงให้กำลังใจตามจังหวะของชิงช้าให้คนเล่นยิ่งโล้ได้สูงและไกลมากขึ้น สำหรับคนห่า หญี่ การโล้ชิงช้าไม่ใช่แค่การละเล่นเท่านั้น แต่นายหมะ ลี้ ฝะ เผยว่านี่ยังเป็นการขอขมาต่อเทพเทวดาและพืชพรรณ“ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อน การโล้ชิงช้าเป็นการขอขมาต่อธรรมชาติ และเทพเทวดาต่อสิ่งที่มนุษย์อาจกระทำล่วงเกินลงไปในตลอดฤดูการทำนาทำไร่นั้น มนุษย์จึงทำชิงช้าขึ้นและการถูกแกว่งกลางอากาศก็เหมือนถูกทำโทษ  คนห่า หญี่มีความเคารพอย่างสูงต่อธรรมชาติและเทพเทวดา ในระหว่างทำมาหากิน เราก็ไม่รู้ว่าเราทำอะไรไม่ดีที่ทำร้ายธรรมชาติหรือเปล่า จึงทำพิธีนี้เพื่อเป็นการขอบคุณและขอโทษธรรมชาติไปในตัว”

คนห่า หญี่จะปลูกชิงช้าเฉพาะในตรุษฤดูฝนเท่านั้น และจะรื้อลงหลัง 3 วันตรุษ รอถึงตรุษฤดูฝนปีหน้าจะมาปลูกชิงช้า โล้ชิงช้ากันต่อ.

คำติชม