เมื่อเทียบกับภาวะถดถอยที่ผ่านมา กระแสการค้าทั่วโลกดูเหมือนจะฟื้นตัวเร็วขึ้น (taichinhdoanhnghiep.net.vn)

ตามรายงานล่าสุดที่ประกาศในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน เศรษฐกิจโลกกำลังมีสัญญาณฟื้นตัวที่น่ายินดี ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านตัวชี้วัดหลายตัวโดยกิจกรรมทางการค้าอยู่อันดับ 1

กิจกรรมการค้าทั่วโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

บรรยากาศการค้าทั่วโลกกำลังฟื้นตัวเร็วกว่าในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008-2009 ตามรายงานของสำนักงานวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจ CPB ของเนเธอร์แลนด์ การแลกเปลี่ยนสินค้าข้ามพรมแดนในไตรมาสที่ 3 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ 2 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา   

กระแสการค้าทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงกลางปีนี้เนื่องจากการขนส่งทางทะเลและทางอากาศได้เปิดให้บริการอีกครั้งในขณะที่ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ผลการสำรวจผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อสินค้าในโรงงานหลายแห่งทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนสุดท้ายของไตรมาสนี้ ในขณะเดียวกัน ผลการสรุปปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเอร์สินค้าของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Leibniz ประเทศเยอรมนีและสถาบันเศรษฐศาสตร์การขนส่งและโลจิสติกส์ปรากฎหว่า มีสถิติสูงสุดในเดือนตุลาคมเช่นกัน

ตามรายงานล่าสุดขององค์การการค้าโลกหรือ WTO กิจกรรมการแลกเปลี่ยนการค้าได้กลับสู่ในระดับปานกลางระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การฟื้นตัวจะได้รับการรักษา

ส่วนตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ การฟื้นตัวของกิจกรรมการค้าทั่วโลกมีส่วนร่วมที่สำคัญของจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและถือเป็นโรงงานโลก จากการควบคุมการแพร่ระบาดตั้งแต่เนิ่นๆอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้จีนสามารถฟื้นฟูการผลิตและกระตุ้นการส่งออกได้อย่างรวดเร็ว ตามรายงานสถิติล่าสุด การขยายตัวจีดีพีของจีนอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่การขยายตัวจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในเชิงบวก

นาง คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (AFP)

ยังคงมีความเสี่ยงมากมาย

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน นาง คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟได้แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตโควิต-19 แต่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่า การฟื้นตัวจะชะลอลงเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นในบางประเทศ การแพร่ระบาดอีกครั้งเป็นคำเตือนที่สำคัญว่า จะไม่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจนกว่าประเทศต่างๆจะป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ในขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดกำลังเกิดขึ้นอย่างซับซ้อนในทั่วโลกโดยจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตได้สร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือ การฟื้นฟูกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการค้าของโลกก็มีความแตกต่างกันในภูมิภาคต่างๆ โดยความสามารถในการฟื้นตัวทางการค้าของจีนและประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชียถือว่าดีที่สุด ในขณะที่สหรัฐและยุโรปตามหลังในเรื่องนี้ ตามรายงานสถิติของ CPB ในขณะที่การส่งออกของจีนและประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชียสูงกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดในเดือนกันยายน การส่งออกของสหรัฐและเขตยูโรโซนได้ลดลงร้อยละ 9 และร้อยละ 2.6 ตามลำดับ นอกจากนี้ จากข้อมูลของ WTO อัตราการเติบโตของการค้าโลกในปี 2020 อาจชะลอตัวเนื่องจากความต้องการสินค้าในช่วงล๊อคดาวน์ในฤดูใบไม้ผลิได้รับการตอบสนองเป็นส่วนใหญ่บวกกับการที่สถานประกอบการมีสินค้าสำรองเพียงพอ

อีกตัวบ่งชี้ที่น่ากังวลขณะนี้คือ ผลการสำรวจขององค์กรวิจัย Conference Board แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ได้ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และสถานการณ์ที่เป็นจริงนี้เป็นการตอกย้ำถึงการคาดการณ์ว่า การการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 ในไตรมาสนี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้รับการคาดการณ์ว่า จะเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 5 ก่อนหน้านั้น เศรษฐกิจสหรัฐได้ลดลงร้อยละ 31.4 ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1947 และกลับเพิ่มขึ้นอีกครั้งที่ร้อยละ 33.1 ในไตรมาสที่ 3 เป็นที่น่าสังเกตว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวในสภาวการณ์ที่แพคเก็จการช่วยเหลือของรัฐบาล มูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นปีนี้หมดอายุลง ในขณะที่วงเงินช่วยเหลืองวดใหม่สามารถดำเนินการได้หลังจากประธานาธิบดีคนใหม่เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปี 2021 เท่านั้น นอกจากนั้น สหรัฐยังเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งด้านจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต.