ร่างกฎหมายการลงทุนฉบับแก้ไขเน้นถึงการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการดึงดูดนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการสาขาธุรกิจที่ต้องมีเงื่อนไขในการลงทุนให้มีความสมบูรณ์ ลดสาขาธุรกิจที่ไม่จำเป็นเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติและสิทธิเสรีภาพในการประกอบธุรกิจของประชาชนและผู้ประกอบการในด้านที่ไม่ขัดกฎหมาย
ค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์ของนักลงทุน
เพื่อค้ำประกันการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่เน้นถึงความเปิดเผย โปร่งใสและลดขั้นตอนการขอและใช้ใบอนุญาตมากเกินไป ร่างกฎหมายการลงทุนอนุญาติให้นักลงทุนมีสิทธิประกอบธุรกิจและลงทุนในด้านต่างๆที่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งยกเลิกสาขาธุรกิจที่มีเงื่อนไขกว่า 10 รายการ แก้ไขและเสริมเพิ่มเติมสาขาธุรกิจที่มีความต้องการและการบริหารจัดการของรัฐเพื่อค้ำประกันไม่ให้ขัดกับกฎหมายฉบับอื่นๆ นาย เยืองมิงห์ต๊วน ผู้แทนจากจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ประเมินว่า “การจัดทำมาตราที่ 6 เกี่ยวกับสาขาธุรกิจที่ห้ามลงทุนและประกอบธุรกิจคือความก้าวหน้าในกฎหมายฉบับนี้ สะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคือ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการประกอบธุรกิจในภาคเศรษฐกิจที่ไม่ขัดกฎหมาย”
สำหรับบางประเด็นสำคัญที่ชมรมสถานประกอบการตั้งความหวังต่างก็ได้รับการปรับปรุงในร่างกฎหมายฉบับแก้ไข เช่น ค้ำประกันสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของสถานประกอบการในการลงทุนประกอบธุรกิจ การปฏิรูป การลดขั้นตอนระเบียบในการดำเนินโครงการลงทุน เป็นต้น
นอกจากอธิบายความหมายและเนื้อหาของร่างกฎหมายฯ การแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษและสนับสนุนการลงทุนเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งมีส่วนร่วมค้ำประกันสิทธิของนักลงทุนในการเข้าถึงสิทธิพิเศษและการสนับสนุนการลงทุน พร้อมทั้งค้ำประกันการพัฒนาของเศรษฐกิจ นาง มายแอ๊งเตวี๊ยด จากคณะผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดอานยางแสดงความคิดเห็นว่า “ร่างกฎหมายระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัตินโยบายให้สิทธิพิเศษตามแนวทางค้ำประกันความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ความมีเสถียรภาพและความโปร่งใสมีความหมายสำคัญ ซึ่งหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อนของกฎหมาย นอกจากนี้ จำเป็นต้องจัดสรรแหล่งพลังและดึงดูดการลงทุนที่มีการคัดเลือก ในแต่ละภูมิภาคควรมีการลงทุนในระดับแตกต่างกันและควรอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการในการลงทุนโครงการใหม่ๆในแต่ละท้องถิ่นภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด”
ค้ำประกันคำมั่นในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษการลงทุนของกฎหมายฯได้รับการจัดทำตามเจตนารมณ์ของมติที่ 50 ของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในสภาวการณ์ใหม่ โดยเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการสาขาธุรกิจที่มีเงื่อนไขการเข้าถึงตลาดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะมีเงื่อนไขการเข้าถึงตลาดเหมือนนักลงทุนภายในประเทศ ช่วยให้การปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการเปิดตลาดของเวียดนามมีความสอดคล้องกับข้อตกลงการค้าเสรียุคใหม่และอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการลงทุนมากขึ้น ตลอดจนแก้ไขปัญหาการขาดความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติคำมั่นของเวียดนามในข้อตกลงที่มีวิธิการเข้าถึงที่แตกต่างกันในการเปิดตลาด
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อลดระเบียบขั้นตอนในกิจกรรมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติและองค์การเศรษฐกิจที่ใช้เงินทุนจากต่างประเทศ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังเพิ่มเนื้อหาที่จำเป็นต่างๆ เช่น ไม่บังคับให้นักลงทุนต่างชาติต้องมีโครงการลงทุนและมอบใบรับรองการจดทะเบียนลงทุนก่อนการจัดตั้งสถานประกอบการสตาร์ทอัพและกองทุนลงทุนสตาร์ทอัพ แก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับระเบียบการสมทบเงินทุน การซื้อหุ้นและเงินทุนที่สมทบของนักลงทุนต่างชาติ สำหรับร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้ นาย ฟานดึ๊กเฮี๊ยว รองหัวหน้าสถาบันวิจัยการบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางแสดงความคิดเห็นว่า “ร่างกฎหมายแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลเวียดนามในการยกเลิกกำแพงที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ หวังว่า การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมเพื่อให้สิทธิเสรีภาพในการประกอบธุรกิจได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
การประกาศกฎหมายการลงทุนฉบับปี 2015 ถือเป็นเจตนารมณ์แห่งการปฏิรูป ส่วนร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้ถ้าหากได้รับการอนุมัติในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 9 สมัยที่ 14 ก็จะช่วยให้เวียดนามปรับตัวเข้ากับเงื่อนไขต่างๆของการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้ดีขึ้น เพิ่มพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศมากขึ้น.