เวียดนามให้ความสนใจและค้ำประกันการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย ป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์

Thu Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) - เหตุชาวเวียดนาม 39 รายที่เสียชีวิตในตู้คอนเทนเนอร์ของรถบรรทุกที่นิคมอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด เมืองเอสเซกซ์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอนเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 ได้ทำให้ตำรวจเมืองเอสเซกซ์ต้องเปิดการสืบสวนครั้งใหญ่ ซึ่งในสภาวการณ์ที่แก๊งค้ามนุษย์ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวไปยังยุโรปยังคงมีความซับซ้อน เวียดนามได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและค้ำประกันต่อการอพยพแรงงานอย่างปลอดภัย ป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก 

 

เวียดนามให้ความสนใจและค้ำประกันการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย ป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ - ảnh 1กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมได้จัดฟอรั่มการสนทนาระดับสูงเกี่ยวกับแรงงานอพยพและพิธีประกาศรายงาน "ผลการวิจัยเกี่ยวกับการบริหารแรงงานอพยพในกลุ่มอาเซียน" เมื่อวันที่ 20 เมษายน ณ กรุงฮานอย (VNA)

ปัจจุบัน กระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมกำลังขยายการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการลักลอบพาแรงงานไปทำงานในยุโรปอย่างผิดกฎหมาย การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานประอบการและสัญญาจ้างงานเพื่อให้แรงงานไปทำงานในยุโรปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปได้ปฏิบัติโครงการ “ต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์และค้าทาสยุคใหม่ วิธีการเข้าถึงของหน่วยงานต่างๆเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ขยายการช่วยเหลือผู้เสียหายในการเข้าถึงการช่วยเหลือทางกฎหมายและการปรับตัวเข้ากับสังคม”ในท้องถิ่น 5 แห่งที่อังกฤษให้การสนับสนุนผ่านองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน สภาอังกฤษและองค์กรศุภนิมิตสากล

ในด้านกฎหมาย เวียดนามได้ประกาศใช้นโยบายและเอกสารกฎหมายเพื่อป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ โดยเฉพาะโครงการป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ระยะปี 2016-2020 มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงจากการลักลอบค้ามนุษย์ แก๊งค้ามนุษย์ อีกทั้งปกป้องและช่วยเหลือผู้เสียหาย ตั้งแต่ปี 2016 รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 30 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันปวงชนป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ ส่วนนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ระยะปี 2021-2025 และวิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 ควบคู่กันนั้น เวียดนามได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็กเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมปี 2016 เข้าร่วมแผนปฏิบัติการโบโฮลเกี่ยวกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ช่วงปี 2017-2020 เข้าร่วมกระบวนการบาหลีและกระบวนการ COMMIT เกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการส่งผู้อพยพข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนั้น เวียดนามยังลงนามข้อตกลงทวิภาคีกับประเทศต่างๆ เช่นจีน ไทย กัมพูชาและลาวในการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ข้ามแดน ปัจจุบัน เวียดนามกำลังส่งเสริมการสำรวจและเจรจาเพื่อมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านแรงงานกับประเทศที่มีศักยภาพในการรับแรงงานเวียดนาม เช่น โรมาเนียและเยอรมนี อีกทั้งทำการวิจัยการเข้าร่วมพิธีสารว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบขนส่งผู้อพยพทางบก ทางทะเล และทางอากาศอย่างผิดกฎหมาย และเพิ่มเติมอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ

ทั้งนี้ นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของรัฐบาลเวียดนามคือค้ำประกันการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งป้องกันและต่อต้านการอพยพย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองในการโยกย้ายถิ่นฐาน แต่อย่างไรก็ตาม ใน 6 เดือนแรกของปี 2021 ได้เกิดเหตุคนร้ายลักลอบส่งชาวเวียดนามไปยังประเทศต่างๆในยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษอย่างต่อเนื่องและมีแก๊งค้ามนุษย์ลักลอบขนส่งชาวเวียดนามเข้าประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมาย เช่น กัมพูชาและจีนผ่านการชักชวนโดยอ้างว่า งานสบายและมีค่าจ้างสูงที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยไม่สนใจข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเวียดนาม ซึ่งการชักชวนคนไปทำงานในต่างประเทศในลักษณะดังกล่าวได้สร้างความท้าทายต่อหน่วยงานบริหารการโยกย้ายถิ่นฐานและการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของพลเมืองเวียดนามในต่างประเทศ

ในสภาวการณ์ดังกล่าว เวียดนามได้พยายามค้ำประกันการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย อีกทั้งป้องกันและต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ โดยในการตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการตรวจพบและป้องกันการโยกย้ายถิ่นฐานและการลักลอบขนชาวเวียดนามไปต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงผลักดันการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการและรูปแบบต่างๆที่แก๊งค้ามนุษย์ใช้หลอกล่อผู้เสียหายและความเสี่ยงจากการย้ายถิ่นอย่างผิดกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามได้เข้าร่วมกลไกความร่วมมือกับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็งเพื่อหารือและแก้ไขกรณีการโยกย้ายถิ่นฐานและการลักลอบขนชาวเวียดนามไปต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย เช่น กิจกรรม Turquessa II ขององค์การตำรวจสากลหรือ INTERPOL เพื่อต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์และลักลอบขนชาวต่างด้าวเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย กลุ่มปฏิบัติงานเพื่อทำลายแก๊งค้ามนุษย์และการลักลอบขนชาวต่างด้าวเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายในกรอบกระบวนการบาหลีเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการส่งผู้อพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย เวียดนามได้ประกาศใช้และดำเนินแผนการปฏิบัติข้อตกลงทั่วโลกเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานที่ชอบด้วยกฎหมาย ความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือ GCM ตามมติที่ 402 ของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคมปี 2020 ที่มีมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงตั้งแต่ระดับส่วนกลางไปจนถึงท้องถิ่นเพื่อค้ำประกันการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้อพยพ

สำหรับหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเวลาที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ให้คำปรึกษาต่อนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเข้มแข็ง โดยเน้นการขยายการบริหารจัดการการพำนักอาศัย การตรวจคนเข้าเมือง การตรวจสอบพลเมืองเวียดนามที่ถูกสั่งเนรเทศหรือไม่ได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยในต่างประเทศเพื่อมีมาตรการช่วยเหลือที่สอดคล้องกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อป้องกัน สืบสวนและลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมาย

ในเวลาข้างหน้า หลังจากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนการเดินทางของประชาชนในทั่วโลกกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ก็อาจเกิดปัญหาต่างๆในการอพยพย้ายถิ่นอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้น เวียดนามจึงมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการลักลอบขนชาวเวียดนามไปต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่การโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้ประชาชนมีความเข้าใจและมีการตัดสินใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐาน หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมายและตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์.

คำติชม