การปฏิบัติภารกิจของคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามนำโดยประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกมีความหมายอย่างลึกซึ้ง บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้และผลงานต่างๆ มีส่วนร่วมยกระดับชื่อเสียงและสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก

สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การผลักดันความสัมพันธ์พิเศษเวียดนาม-คิวบา

การเยือนคิวบาอย่างเป็นทางการของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งเวียดนามและคิวบากำลังย่างเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรค ดอกเตอร์ Ruvislei Gonzales Saez อุปนายกสมาคมมิตรภาพคิวบา-เวียดนามได้ประเมินว่า นี่เป็นการเยือนคิวบาของผู้นำต่างประเทศคนแรกนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมปี 2020 ซึ่งเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดระหว่างสองประเทศในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก  รวมทั้งคำมั่นของผู้นำชุดใหม่ของทั้งสองประเทศต่อการส่งเสริมความสามัคคีที่มีมาช้านานระหว่างสองประชาชาติ

ในกรอบการเยือนครั้งนี้  ทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมระดับสูงในทุกด้าน ลงนามแผนการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมเศรษฐกิจในช่วงปี 2021 -2025  เอกสารหลายฉบับ ข้อตกลงความร่วมมือด้านการเกษตร สาธารณสุข ตุลาการ การสื่อสาร พลังงานและการท่องเที่ยว สิ่งที่น่าสนใจคือ คิวบาได้ให้คำมั่นที่จะจัดสรรวัคซีน Abdala  จำนวน 10 ล้านโดสและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนนี้ให้แก่เวียดนาม โดยก่อนอื่น คิวบาได้มอบวัคซีนจำนวน 1 ล้านโดส ส่วนเวียดนามได้มอบข้าวรวม 2 หมื่น 3 พันตันให้แก่คิวบานับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาด ส่วนในโอกาสการเยือนนี้ เวียดนามมอบข้าว 6 พันตัน อุปกรณ์การแพทย์  พันธุ์ข้าวโพดลูกผสมและเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่คิวบา ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกได้ยืนยันว่า

“พรรค รัฐและประชาชนเวียดนามพร้อมที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างสองประเทศ แม้เวียดนามยังคงประสบอุปสรรคแต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคิวบาอย่างเต็มที่ นี่คือสารของการเยือนนี้ พรรคและประชาชนเวียดนามอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับพรรคและประชาชนคิวบา”

 เวียดนามร่วมกันแก้ไขความท้าทายระดับโลก

หลังการเยือนคิวบา ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกได้เข้าร่วมการอภิปรายระดับสูงของการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 76 ณ นครนิวยอร์ก

ซึ่งเวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ได้รับเชิญให้กล่าวปราศรัยใน 4 กิจกรรมที่สำคัญของสหประชาชาติ  โดยประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกได้ชี้ชัดถึงมาตรการรับมือความท้าทายต่างๆในปัจจุบัน รวมทั้ง การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความไร้เสถียรภาพและการปะทะ การค้ำประกันแหล่งอาหารอย่างยั่งยืน  นาย  บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้ประเมินส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามในการแก้ไขความท้าทายระดับโลกว่า

“ บทปราศรัยของท่านประธานประเทศต่อการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเน้นถึงความสนใจร่วมของประชาคมและพื้นฐานประสบการณ์ของเวียดนาม ได้เสนอมาตรการและคำมั่นต่างๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติเผยว่า สหประชาชาติสนับสนุนคำมั่นของเวียดนามเกี่ยวกับการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการพัฒนาแห่งสีเขียว”

นอกจากนิมิตหมายในกิจกรรมพหุภาคีต่างๆ การเยือนครั้งนี้ของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกยังมีส่วนช่วยผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมทั้งผลสำเร็จด้านการทูตวัคซีน รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซินได้ยืนยันว่า

“ ท่านประธานประเทศได้มีการพบปะกว่า 30 ครั้งกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีประเทศต่างๆ โดยเน้นกระชับความสัมพันธ์ด้านการเมือง รวมทั้งการขยายความร่วมมือ การพบปะทวิภาคีนี้มีส่วนช่วยส่งสริมความไว้วางใจทางการเมือง มีส่วนช่วยผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศและใช้แหล่งพลังต่างๆเพื่อพัฒนาประเทศ”

ประเทศต่างๆได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19และ ให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนแก่เวียดนาม นอกจากด้านสาธารณสุข ในการพบปะ สถานประกอบการเกือบ 50 แห่งต่างยืนยันว่า มีความประสงค์ที่จะเข้ามาลงทุนในเวียดนาม

ที่นครนิวยอร์ก ท่านประธานประเทศได้พบปะกับตัวแทนชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจของพรรคและรัฐเวียดนามต่อชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด อาจกล่าวได้ว่า การเยือนคิวบาและการเข้าร่วมการอภิปรายระดับสูงของการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 76 ของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกได้ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ซึ่งเป็นการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างการทูตพรรค รัฐและการทูตประชาชน ปฎิบัติแนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เพื่อแสดงให้เห็นว่า เวียดนามเป็นเพื่อนมิตรและเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือของประชาคมโลก.