เวียดนามพร้อมมีส่วนร่วมผลักดันการสนทนาและความร่วมมือเพื่อธำรงความมั่นคงทางทะเล

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ความมั่นคงทางทะเลกำลังเผชิญความท้าทายต่างๆ รวมทั้งการพิพาทและการละเมิดอธิปไตยอย่างรุนแรง การธำรงและส่งเสริมความมั่นคงทางทะเลคือผลประโยชน์ หน้าที่ที่เร่งด่วนและความรับผิดชอบร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ การพิพาทในทะเลรวมทั้งทะเลตะวันออกจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล นี่คือคำยืนยันของผู้นำรัฐบาลเวียดนามในการประชุมขยายวงระดับสูงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติภายใต้หัวข้อ "ผลักดันความมั่นงคงทางทะเล อีกมิติแห่งความร่วมมือระหว่างประเทศ” ที่มีขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
เวียดนามพร้อมมีส่วนร่วมผลักดันการสนทนาและความร่วมมือเพื่อธำรงความมั่นคงทางทะเล - ảnh 1นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในการประชุม (VGP)

นี่เป็นครั้งแรกที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการประชุมอย่างเป็นทางการเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงทางทะเลในสภาวการณ์ที่ความมั่นคงทางทะเลของภูมิภาคและโลก กำลังเผชิญความท้าทายต่างๆ มากขึ้น

ความมั่นคงทางทะเลคือปัญหาระดับโลก ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการแก้ไขในระดับโลก

ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า ทะเลและมหาสมุทรคือสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ เป็นเส้นทางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ เป็นประตูเชื่อมโยงระหว่างประเทศและทวีปต่างๆ ซึ่งมีความหมายสำคัญเป็นพิเศษต่อการพัฒนา ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชาติต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามทะเลและมหาสมุทรกำลังต้องรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงต่างๆ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายสากลแต่เพียงฝ่ายเดียวรวมถึงขั้นทำการข่มขู่หรือใช้อาวุธที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ มิตรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการค้า ดังนั้น การธำรงและเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเลคือผลประโยชน์ คือหน้าที่ที่เร่งด่วนและความรับผิดชอบร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ

บนเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้กล่าวว่า ทุกประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต้องตระหนักและเข้าใจอย่างรอบด้านสมบูรณ์และลึกซึ้งเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของทะเลและภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางทะเลจากนั้นจะมีความรับผิดชอบและความตั้งใจทางการเมือง เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจ สร้างระเบียบความร่วมมือที่เคร่งครัดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน รักษาบรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงทางทะเล พร้อมทั้งให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการระดมพลังทุกแหล่งและปฏิบัติยุทธศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกฎหมายของประเทศเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนความมั่นคงทางทะเลคือปัญหาระดับโลก ดังนั้น เพื่อรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงทางทะเล จำเป็นต้องมีความร่วมมือในระดับโลกเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เสนอว่า “ เวียดนามเสนอให้จัดตั้งเครือข่ายกลไกความร่วมมือ ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคที่สหประชาชาติเป็นผู้ประสานงานเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนข้อมูลประสบการณ์และประสานงานในการปฏิบัติเพื่อร่วมกันรับมือความท้าทายระดับโลก เวียดนามให้ความสำคัญต่อบทบาท การเข้าร่วมความคิดเริ่มและกลไกความร่วมมือต่างๆอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในกรอบอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับบรรดาประเทศหุ้นส่วนเกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคและทะเลตะวันออก ซึ่งนำไปสู่การจัดฟอรั่มการสนทนา การสร้าง ความไว้วางใจและมีส่วนร่วมต่อการประสานงานความร่วมมือในด้านความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค

เวียดนามพร้อมมีส่วนร่วมผลักดันการสนทนาและความร่วมมือเพื่อธำรงความมั่นคงทางทะเล - ảnh 2ภาพการประชุม (VGP)

เวียดนามพร้อมร่วมมือเพื่อธำรงความมั่นคงทางทะเล

ในฐานะประเทศริมฝั่งทะเล เวียดนามตระหนักได้ดีเกี่ยวกับคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ของทะเลและความท้าทายต่อความมั่นคงทางทะเล บนเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้งได้ย้ำว่า เวียดนามพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศในภูมิภาคและโลกในความพยายามแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางทะเล มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการธำรงบรรยากาศสันติภาพผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคและโลก

ในฐานะสมาชิกของอาเซียน เวียดนามได้เข้าร่วมความคิดริเริ่มและกลไกความร่วมมือต่างๆอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในกรอบอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับบรรดาประเทศหุ้นส่วนเกี่ยวกับความมั่นคงในทะเลตะวันออก ช่วยเปิดฟอรั่มการสนทนา สร้างความไว้วางใจและมีส่วนร่วมต่อการประสานงานร่วมมือในด้านความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค “เวียดนามตั้งใจร่วมมือกับอาเซียนและจีนในการปฏิบัติ DOC อย่างจริงจัง สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งผลักดันการเจรจาเพื่อมุ่งสู่การบรรลุข้อตกลง COC อย่างจริงจัง มีประสิทธิผลและสอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 นอกจากนี้เวียดนามยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ กลไกพหุภาคี โดยเฉพาะสหประชาชาติ ผลักดันการสนับสนุนและให้ความสนใจอย่างสมเหตุสมผลต่ออุปสรรคและผลประโยชน์ของประเทศที่กำลังพัฒนาและภูมิภาคต่างๆ

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังยืนยันว่า อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 คือพื้นฐานของความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขความท้าทายต่างๆในทั่วโลกและทุกประเทศต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง เวียดนามพร้อมมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อผลักดันการสนทนา สร้างสรรค์ความไว้วางใจเพื่อร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศธำรงความมั่นคงในทะเล ส่งเสริมคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ของทะเลเพื่ออนาคตแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์.

คำติชม