ร่วมมือเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่เศรษฐกิจ

Vân
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในไตรมาสแรกของปีนี้  การขยายตัวจีดีพีของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 3.32 ถึงแม้จะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ในสภาวการณ์ที่ยากลำบากของเศรษฐกิจโลก ผลงานนี้ถือว่าค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตาม ตามความเห็นของบรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติ เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงต้องเผชิญความท้าทายซึ่งต้องมีมาตรการที่เหมาะสมและถูกต้องเพื่อแก้ไขอุปสรรคเพื่อให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6.5 ในปี 2023 ตามแผนที่วางไว้
ร่วมมือเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่เศรษฐกิจ - ảnh 1(VNA)

ตามรายงานการตรวจตราที่เผยแพร่โดยคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสภาแห่งชาติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามมีสัญญาณชะลอตัวตั้งแต่ปลายปีที่แล้วและยืดเยื้อมาจนถึงต้นปีนี้ ซึ่งส่งผลให้การขยายตัวจีดีพีในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.32  ดังนั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6.5 ในปีนี้ การขยายตัวเฉลี่ยในแต่ละไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะต้องเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.5

ระบุความท้าทาย

นาย เหงียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่สถานประกอบการต้องเผชิญในปัจจุบันคือกระแสเงินสด ตลาด คำสั่งซื้อและความสามารถในการดึงดูดเงินทุน เนื่องจากความยากลำบากจากตลาดโลกและความสามารถในการแข่งขันภายใน เช่น ผลิตภาพแรงงานและความสามารถในการรับมือของเศรษฐกิจที่ไม่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น สถานประกอบการหลายแห่งยังมีความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติระเบียบราชการในท้องถิ่นหลายแห่ง ซึ่งถ้าหากไม่รีบแก้ไข ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ร่วมมือเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่เศรษฐกิจ - ảnh 2นาย เจิ่นหว่างเงิน ผู้แทนสภาแห่งชาตินครโฮจิมินห์ (VNA)

ในด้านเงินลงทุนภาครัฐ อัตราการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาบรรลุเพียงร้อยละ 15.6 ของทั้งปีซึ่งทำให้การใช้แหล่งพลังเพื่อการพัฒนาสิ้นเปลืองมาก นาย ห่าสีด่ง ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดกว๋างจิเผยว่า ยอดเงินของรัฐที่ฝากไว้ในระบบธนาคารอยู่ในระดับค่อนข้างสูง จนถึงกลางเดือนนี้  ได้เกินกว่า 4 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็นเรื่องที่ผิดปกติและส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ เมื่อกล่าวถึงปัญหานี้ นาย เจิ่นหว่างเงิน ผู้แทนสภาแห่งชาตินครโฮจิมินห์ได้แสดงความเห็นว่า 3 เสาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามคือ การส่งออก การบริโภค และการลงทุน โดยเฉพาะการส่งออกและการบริโภคกำลังประสบอุปสรรคเนื่องจากกำลังซื้อในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศลดลง

“มีแต่การลงทุนภาครัฐได้รับการถือเป็นจุดเด่น โดยเมื่อปีที่แล้ว การเบิกจ่ายเงินทุนภาครัฐอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่น 1 พัน 2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ความพยายามนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาการเติบโต ดังนั้น การลงทุนภาครัฐจึงต้องเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในช่วงนี้”

แก้ไขอุปสรรค

เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 6.5  การขยายตัวจีดีพีเฉลี่ยจะต้องบรรลุตั้งแต่ร้อยละ 7.5 ซึ่งเป็นความท้าทายเป็นอย่างมากในการบริหารและรัฐบาลต้องมีมาตรการแก้ไขอุปสรรคอย่างเข้มแข็ง

สำหรับการลงทุนภาครัฐ กระทรวงและสำนักงานต่างๆที่เกี่ยวข้องต้องรวบรวมแผนการปรับลดเงินทุนของกระทรวงและหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายเงินที่อยู่ในระดับต่ำเพื่ออัดฉีดให้แก่โครงการสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการและสามารถเบิกจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่กันนั้น ต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ไขระเบียบการลงทุน จัดตั้งกลไกการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐเพื่อผลักดันกระบวนการนี้

สำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถานประกอบการ ผู้แทนหลายคนได้เสนอว่า รัฐบาลต้องมีมาตรการช่วยเหลือสถานประกอบการเพิ่มเติมมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูการผลิตและการประกอบธุรกิจ นาย เจิ่นแองต๊วน ผู้แทนสภาแห่งชาตินครโฮจิมินห์ ได้แสดงความเห็นว่า

“สำหรับต้นทุน ต้องมีนโยบายสนับสนุนสถานประกอบการผลิตเพื่อการส่งออก รัฐบาลควรมีมาตรการแก้ไขที่เข้มแข็งมากขึ้น นอกเหนือจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง เช่น ภาษีนำเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงภาษีจากการใช้ทรัพยากรที่ดิน เป็นต้น สามารถพิจารณาการยกเว้น การขยายเวลาและการลดดอกเบี้ยเงินกู้ ติดตามตลาดโลก บริหารตามแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อให้สถานประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น”

ร่วมมือเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่เศรษฐกิจ - ảnh 3นาย เหงียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน (hanoimoi.com.vn)

ในสภาวการณ์ที่คำสั่งซื้อตั้งแต่ปลายปีที่แล้วได้ทำให้สถานประกอบการหลายแห่งต้องปรับลดกำลังการผลิต  นาย ห่าสีด่ง เสนอว่า

“ตลาดส่งออกชะงักงัน ผู้ผลิตหลายรายมีสินค้าค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก และการผลิตของสถานประกอบการประสบอุปสรรค ดังนั้น ต้องทบทวนและประเมินอย่างรอบคอบและต้องมีมาตรการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม โดยมาตรการด้านสินเชื่อมีความสำคัญที่สุด ประเด็นที่ 2 คือ เชื่อมโยงตลาดส่งออกอีกครั้งเพื่อสร้างงานทำ ประเด็นที่ 3 คือ ทบทวนกลไกและนโยบายที่ได้ประกาศใช้แต่ยังไม่ได้นำไปปฏิบัติ ต้องกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นมากขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว”

ครึ่งปีแรกได้ผ่านพ้นไป เป้าหมายการขยายตัวจีดีพีที่ร้อยละ 6.5 ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเวียดนาม นอกเหนือจากการระบุความท้าทายอย่างชัดเจนแล้ว รัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆต้องพยายามปฏิบัติมาตรการต่างๆ อย่างพร้อมเพรียงเพื่อช่วยให้เวียดนามแสวงหาโอกาสการพัฒนาใหม่และพลังขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้.

คำติชม