ขบวนการระหว่างประเทศต่างๆ สนับสนุนการลงนามข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับสันติภาพในเวียดนาม

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับสันติภาพในเวียดนามที่ลงนามเมื่อวันที่ 27 มกราคมปี 1973 เป็นเอกสารทางนิตินัยระหว่างประเทศฉบับแรก ที่สหรัฐต้องให้คำมั่นให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและเอกภาพของประชาชาติเวียดนาม ซึ่งข้อตกลงนี้ไม่เพียงแต่มีความหมายต่อประวัติศาสตร์ของเวียดนามเท่านั้น หากยังเป็นนิมิตรหมายสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย ความสำเร็จในการต่อสู้ สติปัญญาและความมุ่งมั่นที่ยาวนานและน่าภาคภูมิใจของหน่วยงานการทูตเวียดนามได้มีบทบาทและการสนับสนุนจากเพื่อนมิตรที่ใฝ่สันติภาพและมโนธรรมของนานาชาติ ซึ่งการช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ช่วยให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการเจรจาข้อตกลงปารีส
ขบวนการระหว่างประเทศต่างๆ สนับสนุนการลงนามข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับสันติภาพในเวียดนาม - ảnh 1นาง เหงียนถิบิ่งห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลสาธารณรัฐภาคใต้เวียดนามลงนามข้อตกลงปารีสเมื่อวันที่ 27 มกราคมปี 1973

การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงปารีสได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ขบวนการสนับสนุนการต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติของเวียดนามกำลังมีขึ้นในประเทศฝรั่งเศสอย่างเข้มแข็ง ในขณะที่การเจรจากำลังตึงเครียด กองทัพสหรัฐได้เปิดสงครามทำลายล้างด้วยการใช้เครื่องบินจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในฤดูหนาวปี 1972 บรรดาผู้ใฝ่สันติภาพของฝรั่งเศสได้ประณามการกระทำที่โหดร้ายของกองทัพสหรัฐ

การสนับสนุนและความสามัคคีระหว่างประเทศ

การที่มีองค์กรมิตรภาพต่อต้านสงคราม 52 แห่งจัดการประท้วงสงครามในเวียดนามอย่างต่อเนื่องได้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนเวียดนามอย่างเข้มแข็งของประชาชนฝรั่งเศสที่ใฝ่สันติภาพ ณ เมือง Choisy-le-Roi ซึ่งเป็นสถานที่ที่คณะผู้แทนของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งเป็นชื่อในอดีตของประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบันได้อาศัยในตลอดเกือบ 5 ปีที่ทำการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงปารีส ซึ่งในขณะนี้ ที่นี่ยังคงมีบ้านพักที่คณะผู้แทนเวียดนามเคยอาศัยและมีจตุรัสที่ถูกตั้งชื่อว่า “ข้อตกลงปารีส” ที่ได้รับการเปิดเมื่อปี 2013 รวมทั้งสัญลักษณ์แห่งสันติภาพที่ยิ่งใหญ่ที่ถือเป็นคำยืนยันเกี่ยวกับไมตรีจิตมิตรภาพกับเวียดนาม นาง Jéanine Rubin อาสาสมัครคนหนึ่งที่เคยทำหน้าที่เตรียมอาหารให้แก่คณะนักเจรจาเวียดนามเมื่อ 50 ปีก่อนเล่าว่า

            “ในช่วงนั้น ฉันทำงานเสิร์ฟอาหารในโรงเรียน โดยพรรคคอมมิวนิสต์ได้ถามว่า อยากทำงานอาสาสมัครให้แก่คณะเจรจาของเวียดนามหรือไม่ ซึ่งฉันก็ได้ตกลง ถึงแม้เวลาทำงานอาสาไม่นานนักแต่ความรู้สึกที่มีคณะฯ ถือเป็นแรงจูงใจให้ดิฉันสมัครเข้าเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสและเข้าร่วมกิจกรรมมิตรภาพฝรั่งเศส – เวียดนามจนถึงปัจจุบัน ฉันมีความทรงจำที่ดีมากในหัวใจของฉัน”

เวียดนามได้รับการสนับสนุนและความสามัคคีระหว่างประเทศที่มีความหมายเป็นอย่างมาก รวมทั้งการสนับสุนนของประชาชนสหรัฐที่เรียกร้องให้สร้างสันติภาพในเวียดนาม ขบวนการประท้วงสงครามในเวียดนามได้ขยายผลไปทั่วโลก มีบทบาทที่สำคัญเพื่อช่วยให้เวียดนามต่อสู้อย่างเข้มแข็งมากขึ้นทั้งในสนามรบและเวทีการทูต นั่นคือการเจรจาในกรุงปารีส นาย John Terzano ทหารผ่านศึกกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งได้เข้าร่วมสงครามสองครั้งในเวียดนามและในช่วงหลังก็เป็นหนึ่งในสมาชิกที่กระตือรือร้น พร้อมกับนาย John Kerry และนาย Bobby Muller ในองค์กร “ทหารผ่านศึกสหรัฐต่อต้านสงครามในเวียดนาม” ได้เผยว่า

            “หนึ่งเดือนก่อนการลงนามในข้อตกลง ผมได้ออกจากประเทศเวียดนามด้วยเรือรบของสหรัฐ ผมไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนเพราะได้ออกจากสถานที่ที่ผมมีความทรงจำที่ไม่ดี นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเดินทางมาถึงในช่วงปี 1971-1972 แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่า จะกลับมาเวียดนามอีก โดยแต่ละครั้งที่กลับเวียดนาม ผมและทหารผ่านศึกสหรัฐหลายคนยังตระหนักว่า มีหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นปกติ”

ขบวนการระหว่างประเทศต่างๆ สนับสนุนการลงนามข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับสันติภาพในเวียดนาม - ảnh 2ผู้แทนที่เข้าร่วมรายการ "การพบปะมิตรภาพข้อตกลงปารีส 1973 - ย้อนมองอดีตและมุ่งสู่อนาคต" ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 13 มกราคม (qdnd.vn)

เวียดนามสำนึกในบุญคุณต่อความช่วยเหลือของเพื่อนมิตรนานาชาติ

นับตั้งแต่ที่สงครามในเวียดนามยุติลง นาย John Terzano และเพื่อนๆ ชาวอเมริกันหลายคนยังพยายามปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เพื่อขยายความสัมพันธ์เวียดนาม – สหรัฐ เช่น รณรงค์ให้สหรัฐยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรเวียดนาม สนับสนุนผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มเวียดนามและเหยื่อจากกับระเบิด โดยมีส่วนร่วมสมานบาดแผลสงครามในประเทศเวียดนามที่เขารัก ในการเดินทางกลับมาเวียดนามในโอกาสที่เวียดนามจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อรำลึกครบรอบ 50 ปีการลงนามข้อตกลงปารีส นาย John Terzano และเพื่อนๆ นานาชาติได้เข้าร่วมบรรยากาศแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง นาง เหงียนเฟืองงา ประธานสหพันธ์องค์กรมิตรภาพเวียดนามกล่าวว่า

            “ 50 ปีได้ผ่านพ้นไปแต่ทุกคนยังคงรักประเทศและคนเวียดนามเป็นอย่างมาก พร้อมร่วมกับเวียดนามระดมความสามัคคีระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนเวียดนามในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ เป็นเพื่อนที่ไม่เคยแก่”

ในสารที่ส่งถึงเพื่อนมิตรนานาชาติในโอกาสนี้ นาง เหงียนถิบิ่งห์ อดีตรองประธานประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นสมาชิกที่สำคัญบนโต๊ะเจรจาข้อตกลงปารีสได้ยืนยันว่า

            “เราจดจำเพื่อนๆ ชาวอเมริกันที่เผาตัวเองเพื่อประท้วงสงครามในเวียดนามและประชาชนนับล้านคนทั่วโลกถึงแม้จะต้องถูกจับกุม แต่ก็ได้เดินขบวนประท้วงเพื่อเรียกร้องให้สหรัฐยุติสงคราม ซึ่งความสามัคคีและการสนับสนุนนั้นถือเป็นแรงผลักดันให้พวกเราพยายามมากขึ้นทั้งในสนามรบและบนโต๊ะเจรจา”

            50 ปีได้ผ่านพ้นไป หลาย ๆ คนที่มีส่วนร่วมในคณะเจรจาของเวียดนามในช่วงเวลานั้น รวมทั้งเพื่อนมิตรชาวฝรั่งเศสและชาวอเมริกันหลายคนได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น ประวัติศาสตร์ก็ยังคงจดจำส่วนร่วมของพวกเขาที่ได้มีส่วนร่วมสร้างกำแพงที่มั่นคงเพื่อช่วยประชาชาติเวียดนามปกป้องสันติภาพ พวกเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์และพยานที่มีชีวิตเกี่ยวกับไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับเพื่อนมิตรนานาชาติ.

คำติชม