 เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ผู้นำพรรคและรัฐเข้าร่วมการประชุม (VGP) |
ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคฯสมัยที่ 11 และสมัยที่ 12 ได้ลงคะแนนไว้วางใจต่อสมาชิกกรมการเมืองพรรคฯ และสมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคฯ จากการติดตามการลงคะแนนไว้วางใจใน 2 สมัยดังกล่าว นาย เหงียนดึกห่า อดีตอธิบดีกรมองค์กรพรรคระดับท้องถิ่นของคณะกรรมการด้านบุคลากรส่วนกลางได้ประเมินว่า การลงคะแนนไว้วางใจฯในทั้ง 2 สมัยดังกล่าวเป็นไปด้วยดี สะท้อนอย่างมีภาวะวิสัยและถูกต้อง จนถึงขณะนี้ กรมการเมืองพรรคฯยังคงปฏิบัติการลงคะแนนไว้วางใจตาม 3 ระดับคือ “ความไว้วางใจในระดับสูง” “ความไว้วางใจ” และ “ความไว้วางใจในระดับต่ำ” พร้อมทั้งได้ แสดงความเชื่อมั่นต่อผลการลงคะแนนไว้วางใจในครั้งนี้ว่า
“การที่คณะกรรมการกลางพรรคฯลงคะแนนไว้วางใจต่อสมาชิกกรมการเมืองพรรคฯและสมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคฯ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบในระดับที่สูงขึ้น ในฐานะเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ความคิดและทัศนะต้องสมกับบทบาทตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นช่องทางให้ข้อมูล แต่ก็เป็นช่องทางให้ข้อมูลที่สำคัญมากเพื่อสนับสนุนการประเมิน ถ้าหากสมาชิกกรมการเมืองพรรคฯและสมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคฯได้รับคะแนนไว้วางใจสูง นี่ถือเป็นการประเมินและชื่นชมพวกเขา ส่วนสำหรับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับการมอบหมายได้ยังไม่ดีนักและมีคะแนนไว้วางใจไม่สูง ก็ถือเป็นโอกาสเพื่อพิจารณาและแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง”
เมื่อเทียบกับสมัยที่ 11 และสมัยที่ 12 การลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโดยคณะกรรมการกลางพรรคฯในครั้งนี้ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ 96 เกี่ยวกับการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้นำและผู้บริหารในระบบการเมือง เนื้อหาที่เป็นก้าวกระโดดของข้อกำหนดที่ 96 คือในการลงคะแนนไว้วางใจเพื่อประเมินเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ถ้าหากไม่ได้รับความไว้วางใจก็ต้องให้พ้นจากตำแหน่ง โดย “ผู้ที่มีคะแนนไว้วางใจในระดับต่ำมากถึง 2 ใน 3 ของการลงคะแนนจะต้องพ้นจากตำแหน่งปัจจุบันและให้ไปดำรงตำแหน่งอื่นในระดับต่ำกว่าโดยไม่ต้องรอหมดวาระ” ในฐานะสมาชิกแสดงความคิดเห็นต่อโครงการลงคะแนนไว้วางใจต่อสมาชิกกรมการเมืองพรรคฯและสมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคฯของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ในครั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. หวูวันฟุก รองประธานสภาวิทยาศาสตร์ของสำนักงานพรรคส่วนกลาง ได้ประเมินว่า
“ข้อที่เป็นก้าวกระโดดของข้อกำหนดที่ 96 ของกรมการเมืองพรรคฯ คือ เมื่อก่อน การลงคะแนนไว้วางใจเป็นเพียงการทาบทามความคิดเห็นในการประเมินเจ้าหน้าที่ แต่ข้อกำหนดที่ 96 นี้ยืนยันว่า “การลงคะแนนไว้วางใจเป็นพื้นฐานเพื่อประเมิน แต่งตั้ง มอบหมายหน้าที่ โยกย้ายตำแหน่งสำหรับเจ้าหน้าที่” ดังนั้น ข้อกำหนดที่ 96 เกี่ยวกับการลงคะแนนไว้วางใจมีบทบาทและมีความหมายที่สำคัญกว่าข้อกำหนดครั้งก่อนๆ”
ที่น่าสนใจคือข้อกำหนดที่ 96 ได้เพิ่มบรรทัดฐานเกี่ยวกับการเป็นแบบอย่างของทั้ง คู่สมรสและบุตรของเจ้าหน้าที่ผู้บริหารและผู้นำในการปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายของรัฐ ตลอดจน การเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ นี่คือบรรทัดฐานที่สำคัญเพื่อประเมินความไว้วางใจต่อผู้บริหาร นาย เหงียนเวียดเทียด สมาชิกสโมสรทังลองและนาย เหงียนหงอกหาก อดีตหัวหน้าฝ่ายตรวจราชการของกระทรวงกลาโหมได้แสดงความเห็นว่า
“ถ้าไม่เป็นตัวอย่างให้คนในครอบครัว คู่สมรสและลูก ๆ ก็อาจมีการกระทำผิด และอาดอาศัยอำนาจตำแหน่งนั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิชอบซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น การมีข้อกำหนดที่ 96 จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะหากในครอบครัวคุณมีพฤติกรรมที่ไม่ดีเมื่อออกสู่สังคมคุณก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ดีได้”
“ถ้าอยากเป็นผู้บริหารที่ดี ก็ต้องตระหนักทำดี ส่งเสริมสมาชิกในครอบครัวพยายามเป็นคนดี ไม่ฉกฉวยหรือแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ของตนโดยมิชอบ”
 รองศาสตราจารย์ ดร. หวูวันฟุก รองประธานสภาวิทยาศาสตร์ของสำนักงานพรรคส่วนกลาง (quochoi.vn) |
จากความหมาย ความสำคัญและลักษณะของการลงคะแนนไว้วางใจในการประชุมกึ่งวาระของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคฯครั้งนี้ ประชาชนคาดหวังว่า การลงคะแนนไว้วางใจจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อเตรียมบุคลากรสำหรับการประชุมใหญ่พรรคสาขาทุกระดับในสมัยต่อไป
“การเตรียมบุคลากรสำหรับตำแหน่งผู้บริหารในสมัยต่อไปคือส่วนงานที่สำคัญและมีความต่อเนื่อง การลงคะแนนไว้วางใจมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการพิจารณาคัดเลือกและการแนะนำบุคลากรให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ”
“ผมสนับสนุนการลงคะแนนไว้วางใจ แต่สิ่งที่สำคัญคือการถอดประสบการณ์จากการลงคะแนนไว้วางใจในครั้งก่อนและครั้งต่อไป ต้องเดินหน้าตรวจสอบและประเมินให้มีความชัดเจนมากขึ้น”
ทั้งนี้การลงคะแนนไว้วางใจถือเป็นการประเมินและรับทราบความพยายามของผู้ที่ได้รับคะแนนไว้วางใจในระดับสูง ส่วนสำหรับผู้ที่ได้รับคะแนนไว้วางใจในระดับต่ำก็จะต้องถือโอกาสพิจารณาตัวเองใหม่ ในการประชุมครั้งนี้ สมาชิกของคณะกรรมการกลางพรรคฯได้ส่งเสริมจิตใจแห่งความรับผิดชอบ ประเมินคุณภาพ ความสามารถและผลการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายและชื่อเสียงของผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจเพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างคุณภาพของแถวขบวนเจ้าหน้าที่และทำให้องค์กรพรรคมีความแข็งแกร่งและบริสุทธิ์มากขึ้น.