เสียงฆ้องกังวาลทั่วผืนดินจังหวัดดั๊กลั๊กยามวสันต์ฤดู

H Xíu
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในช่วงต้นปี 2021 ณ หมู่บ้าน Kmrơng Prong A ตำบล Ea Tu เมืองบวนมาถวด จังหวัดดั๊กลั๊ก ทีมฆ้องชายอายุตั้งแต่ 12-15ขวบจากหมู่บ้าน Kmrơng Prong A ตำบล Ea Tu และทีมฆ้องหญิงอายุตั้งแต่ 14-32 ปีจากหมู่บ้าน Kbu ตำบลหว่าแค้งได้พบปะสังสรรค์และร่วมการแสดงฆ้องไม้ไผ่ หรือในภาษาชนเผ่าเรียกว่า Chingkram ที่ใช้วัสดุจากกระบอกไผ่ ซึ่งเป็นเครื่องคนดตรีที่ถูกประดิษฐ์คิดค้นโดยคนท้องถิ่นเพื่อใช้เล่นในงานชุมชนต่างๆของเผ่าเอเด
เสียงฆ้องกังวาลทั่วผืนดินจังหวัดดั๊กลั๊กยามวสันต์ฤดู - ảnh 1การบรรเลงเพลง Đón khách หรือ แปลว่า “ต้อนรับแขก”ของทีมฆ้องชายจากหมู่บ้าน Kmrơng Prong A
 
 

กิจกรรมนี้เริ่มต้นด้วยการบรรเลงเพลง Đón khách หรือ แปลว่า “ต้อนรับแขก”ของทีมฆ้องไผ่ชายจากหมู่บ้าน Kmrơng Prong A โดยจังหวะที่สนุกคึกครื้นของเพลงเปรียบเสมือนการเชิญชวนให้ทีมฆ้องหญิงจากหมู่บ้าน Kbu มาเข้าร่วมการแสดง นาย Y Bây Kbuôr หัวหน้าหมู่บ้านและรองเลขาธิการพรรคสาขาหมู่บ้าน Kmrơng Prong A ได้เผยว่า ทีมฆ้องชายชุดนี้เป็นหนึ่งใน 3 ทีมฆ้องของหมู่บ้าน Kmrơng Prong A ในปัจจุบัน“นี่คือทีมฆ้องไผ่ที่สมาชิกมีอายุน้อยที่สุด โดยได้รับการจัดตั้งเมื่อปีที่แล้วในกรอบโครงการอบรมและสอนการตีฆ้องของศูนย์วัฒนธรรมเมืองบวนมาถวด นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมฆ้องเด็กผู้ชายได้พบปะสังสรรค์กับทีมฆ้องหญิงจากหมู่บ้าน Kbu สิ่งที่น่ายินดีคือสมาชิกในทีมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้บรรเลงเพลงต่างๆ หวังว่า ทีมฆ้องเด็กผู้ชายจะมีโอกาสเข้าร่วมการแสดงและงานมหกรรมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อพบปะสังสรรค์และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากทีมฆ้องอื่นๆ”

เสียงฆ้องกังวาลทั่วผืนดินจังหวัดดั๊กลั๊กยามวสันต์ฤดู - ảnh 2การแสดงของทีมฆ้องหญิงจากหมู่บ้าน Kbu

ต่อจากการแสดงของทีมฆ้องเด็กผู้ชายจากหมู่บ้าน Kmrơng Prong A ก็คือการแสดงของทีมฆ้องหญิงจากหมู่บ้าน Kbu โดยถึงแม้จะเริ่มเรียนการตีฆ้องตั้งแต่ปี 2020 แต่สมาชิกในทีมฆ้องหญิงรวม 10 คนได้ฝึกซ้อมอย่างกระตือรือร้นจนสามารถเล่นเพลงโต้ตอบที่ค่อนข้างยากได้ โดยเพลงนี้มีจังหวะค่อนข้างเร็วและสนุกคึกครื้น มักจะแสดงในงานบุญข้าวใหม่ งานเซ่นไหว้เทพแห่งท่าน้ำและงานแต่งงาน นาง H Uêt Niê สมาชิกทีมได้เผยว่า สมาชิกในทีมฝึกเล่นเพลงนี้ภายในเวลา 2 เดือน โดยฝึกเป็นประจำทุกสัปดาห์“พวกเราได้เข้าร่วมชั้นเรียนสอนการตีฆ้อง อีกทั้งไปแสดงในกิจกรรมต่างๆของตำบล เช่น วันงานมหาสามัคคีชนในชาติในหมู่บ้านและไปฝึกตีฆ้องร่วมกันทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมฆ้องหญิงจากหมู่บ้าน Kbu ได้ไปแสดงและพบปะสังสรรค์กับทีมฆ้องอื่น ดิฉันหวังว่า จะได้เรียนรู้ประสบการณ์และเพลงใหม่ๆจากทีมฆ้องอื่น”

ภายหลังการแสดงของแต่ละทีม ทั้งสองทีมก็ได้ทำการแสดงร่วมกันในเพลง “ชวนดื่มเหล้า” โดยสำหรับชนเผ่าเอเด การแสดงของทีมฆ้องหญิงเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากและการที่ทีมฆ้องวัยรุ่นจากหมู่บ้านต่างๆมาพบปะสังสรรค์และแสดงร่วมกันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นาย Y Blăng Kbuôr จากหมู่บ้าน Kbu ตำบลหว่าแค้ง จังหวัดบวนมาถวดได้เผยว่า กิจกรรมดังกล่าวน่าสนใจมาก โดยแม้ทั้งสองทีมไม่ได้ฝึกตีฆ้องร่วมกันล่วงหน้า แต่ก็สามารถทำการแสดงได้ดีมาก“ผมรู้สึกปลื้มปิติยินดีมากที่ได้ชมการแสดงของทั้งสองทีมในวันนี้เพราะเมื่อก่อนนี้ ได้ชมการแสดงและการพบปะสังสรรค์ของทีมฆ้องผู้สูงอายุจากหมู่บ้านต่างๆในโอกาสงานขึ้นบ้านใหม่หรือเทศกาลต่างๆเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ชมการแสดงและการพบปะสังสรรค์ระหว่างทีมฆ้องวัยรุ่นของหมู่บ้าน 2แห่ง”

เสียงฆ้องกังวาลทั่วผืนดินจังหวัดดั๊กลั๊กยามวสันต์ฤดู - ảnh 3ทั้งสองทีมทำการแสดงร่วมกันในเพลง “ชวนดื่มเหล้า”

ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า นี่คือกิจกรรมใหม่ในการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมฆ้องในเมืองบวนมาถวด ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยง การแลกเปลี่ยนและสร้างโอกาสให้ทีมฆ้องต่างๆมีการแสดงอย่างต่อเนื่อง นาง ฝ่ามถิหายบิ่ง รองผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวเมืองบวนมาถวดได้เผยว่า กิจกรรมนี้ของศูนย์ฯได้รับการขานรับจากทีมฆ้องวัยรุ่นอย่างเข้มแข็งและในปีนี้ ทางศูนย์ฯได้วางแผนจัดงานมหกรรมระดับเมืองเพื่อสร้างโอกาสให้ทีมฆ้องวัยรุ่นได้พบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนระหว่างกัน“กิจกรรมนี้ช่วยนำวัฒนธรรมฆ้องใกล้ชิดกับผู้ชมมากขึ้น ทางศูนย์ฯได้วางแผนจัดงานมหกรรมทีมฆ้องวัยรุ่นระดับเมืองครั้งแรกในเดือนเมษายนนี้และจะจัดเป็นประจำทุกๆ 2ปี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการประชาชนเมืองบวนมาถวด”

กิจกรรมการพบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนระหว่างทีมฆ้องรุ่นใหม่ในเมืองบวนมาถวดได้สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การแสดงฆ้องไผ่ อีกทั้งเป็นโอกาสให้ยุวชนและเยาวชนที่ชื่นชอบฆ้องได้แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ซึ่งกันและกันผ่านการฝึกเพลงใหม่ๆ ตลอดจนมีส่วนร่วมอนุรักษ์และทำให้วัฒนธรรมฆ้องของชนเผ่าตนเป็นที่รู้จักมากขึ้นในทั่วประเทศ.

คำติชม