ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามสู่ระดับโลก

Ngọc Ngà
Chia sẻ
(VOVWORLD) - อุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามกำลังประสบความยากลำบากในการผสมผสานในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ดี ในเวลาที่ผ่านมา การที่ภาพยนตร์ต่างๆของเวียดนามได้รับการจัดจำหน่ายและฉายในต่างประเทศถือเป็นสัญญาณที่สดใสและแสดงให้เห็นว่า แม้การพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามในระดับโลกจะเป็นสิ่งที่ยากมาก แต่เวียดนามก็มีโอกาสทำได้

 

ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามสู่ระดับโลก  - ảnh 1ภาพในภาพยนตร์เรื่อง"The Story of Pao"  (dienanh.vn)

ในช่วง 10ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามเป็นที่รู้จักในต่างประเทศผ่านภาพยนตร์ต่างๆที่ได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การระหว่างประเทศ หรือ นักลงทุนเอกชน รวมทั้งภาพยนตร์ของเวียดนามที่ส่งเข้าร่วมการประกวดและได้รับรางวัลต่างๆจากงานเทศกาลภาพยนตร์ระดับภูมิภาคและโลก แต่อย่างไรก็ตาม การประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เวียดนามในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมีวัตถุประสงค์เพื่อฉายให้ชมฟรีและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเท่านั้น ส่วนภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง เช่น   “Living in Fear”, "The Story of Pao", “The Floating Lives” ก็เป็นเพียงการขายให้สถานีโทรทัศน์ในท้องถิ่นเท่านั้น และได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ในขณะที่จำนวนภาพยนตร์ที่ถูกจัดจำหน่ายผ่านระบบสายหนังมีน้อยมาก โดยส่วนใหญ่เป็นหนังแอ็คชั่นและหนังสยองขวัญ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “Furie” “Face Off” และ “Thiên sơn Nhất linh” ดังนั้น เวียดนามจึงต้องลงทุนด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากขึ้น ผู้กำกับเลืองดิ่งหยุง ได้เผยว่า“กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวควรจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เวียดนามในต่างประเทศ ซึ่งการได้รับเงินช่วยเหลือมูล่า 8-12 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจากรัฐจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามในอีก 10ปีข้างหน้า โดยวงเงินดังกล่าวจะใช้ลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ 10เรื่องที่เชิญผู้กำกับที่มีความสามารถและมีการร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเพื่อมีโอกาสได้รับรางวัลในงานเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกในอีก 5ปีข้างหน้าเพื่อสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนาม มีการเปิดตัวและฉายภาพยนตร์เวียดนามทั้งในเวียดนามและต่างประเทศพร้อมกันและต้องตั้งเป้าหมายว่า แต่ละปีจะมีการฉายภาพยนตร์เวียดนาม 30เรื่องในต่างประเทศเพื่อทำให้ภาพยนตร์เวียดนามเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากขึ้น”

นอกจากส่งภาพยนตร์เข้าร่วมงานมหกรรมภาพยนตร์ต่างๆแล้ว เวียดนามยังผลักดันการส่งออกภาพยนตร์ไปฉายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเช่นกัน ในทางเป็นจริง จำนวนภาพยนตร์เวียดนามที่ได้รับการฉายในต่างประเทศและสร้างรายได้มีน้อยมาก เช่น แม้ภาพยนตร์เรื่อง “The Rebel” และ “The owl and the sparrow”จะถูกฉายในอเมริกาเหนือแต่ก็ทำเงินน้อยมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นอกจากเงินลงทุน หัวข้อและเนื้อหาของภาพยนตร์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ ศิลปินประชาชนและผู้กำกับเหงวียนแทงเวินได้เผยว่า ควรผลักดันหัวข้อที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกมากขึ้น “แนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามต้องขึ้นอยู่กับแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในโลกเพื่อเพิ่มมูลค่าของภาพยนตร์เพราะผู้ชมต่างชาติชอบดูหนังที่สะท้อนปัญหาระดับโลก มิใช่ปัญหาเฉพาะถิ่น”

ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามสู่ระดับโลก  - ảnh 2โปสเตอร์ของภาพยนตร์เรื่อง“The Rebel” (phimtruyen.com)

ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ต้องมียุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามในระยะยาวอย่างพร้อมเพรียง โดยก่อนอื่น ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องสร้างก้าวกระโดดและมีความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ ศิลปินประชาชนและนักถ่ายทำภาพยนตร์ ลี้ท้ายหยุงได้เผยว่า“ต้องมีการลงทุน วางแนวทางการพัฒนา แผนเตรียมการฝึกอบรมให้แก่เยาวชนและการสนับสนุนจากรัฐเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามในการผสมผสานในปัจจุบัน สาธารณรัฐเกาหลีต้องใช้เวลา 30ปีเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ส่วนเวียดนามก็ต้องใช้เวลาอีก 20 - 30 ปีเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เช่นกัน”

ส่วนศิลปินฮิวบ๋าวได้เผยว่า ต้องผลักดันการผสมผสานเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์จากประเทศที่มีศักยภาพการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์สูงกว่า“ภาพยนตร์ของต่างประเทศมีหัวข้อต่างๆ เช่น  การเหยียดผิว และรักร่วมเพศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ชมในโลกให้ความสนใจ ดังนั้นต้องเลือกหัวข้อต่างๆที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมและต้องปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การเซ็นเซอร์ภาพยนตร์”

ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามปี  2020วิสัยทัศน์ถึงปี 2030 ตั้งเป้าหมายว่า เวียดนามจะมีภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลสูงๆในงานมหกรรมภาพยนตร์ระหว่างประเทศและมีศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับภูมิภาคและโลกภายในปี 2030 ซึ่งต้องมีความร่วมมือระหว่างฝ่ายต่างๆเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามควบคู่กับการอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมเพื่อสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าอุตสาหกรรมภาพยนตร์เวียดนามที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันและสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดโลกได้.

คำติชม