นาย ดั่งมิงโทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (VNA)

ในการนี้ นาย ดั่งมิงโทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเหตุรุนแรงที่มุ่งเป้าไปยังประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะสตรีและเด็กในฉนวนกาซาและเขตที่ถูกอิสราเอลยึดกรอง พร้อมทั้งเผยว่า ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆเนื่องจากขาดแคลนด้านการเงินและสาธารณสุขในขณะที่การรื้อถอนบ้านที่เขตเวสแบงค์ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปาเลสไตน์และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและเพิ่มเงินช่วยเหลือให้แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์เพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติหรือ UNRWA เรียกร้องให้ฝ่ายๆใช้ความอดกลั้น คลี่คลายความตึงเครียด ยุติการใช้ความรุนแรงเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจะไม่สามารถบรรลุความคืบหน้าในกระบวนการทางการเมืองและการเลือกตั้งในปาเลสไตน์ถ้าหากฝ่ายต่างๆไม่ให้คำมั่นสันติภาพและยืนยันว่า เวียดนามสนับสนุนความพยายามและความคิดริเริ่มเพื่อบรรลุมาตรการในทุกด้านและมีความยุติธรรมในระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาของปาเลสไตน์บนพื้นฐานของหลักการขั้นพื้นฐานของกฎหมายสากลและมติต่างๆของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

รัฐมนตรีช่วยดั่งมิงโทยได้แสดงความสามัคคีของเวียดนามกับการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของชาวปาเลสไตน์เพื่อมุ่งสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่อิสระและอยู่ร่วมกับรัฐอิสราเอลอย่างสันติตามเส้นแบ่งพรมแดนปี 1967.