จังหวัดด่งนายมุ่งสู่การสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะ

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ต่อจากกรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ นครดานังและจังหวัดบิ่งเยือง จังหวัดด่งนายก็เป็นอีกหนึ่งท้องถิ่นที่ได้รับเลือกให้เป็นจังหวัดทดลองสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะผ่านความร่วมมือกับเครือบริษัทระดับโลก ในฐานะเป็นท้องถิ่นที่มีอัตราการพัฒนาตัวเมืองที่รวดเร็ว ในเวลาที่ผ่านมา จังหวัดด่งนายได้เดินหน้าในการประยุกต์ใช้แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะในด้านต่างๆ เช่น คมนาคม สาธารณสุขและการศึกษา ซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อมุ่งสู้การสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะที่กว้างใหญ่ในเวลาที่จะถึง
จังหวัดด่งนายมุ่งสู่การสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะ - ảnh 1จังหวัดด่งนายมุ่งสู่การสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะ (Photo internet)

ตัวเมืองอัฉริยะคือตัวเมืองที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและปัญญาประดิษฐ์เพื่อบริหารและยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ในตัวเมือง ปรับปรุงคุณภาพการให้บริหารของทางการและใช้แหล่งพลังและทรัพยากรต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นายหวิ่งกวางเลียม รองผู้อำนวยการบริษัทวีเอ็นพีทีเผยว่า            “พื้นฐานหลักของตัวเมืองอัจฉริยะคือการเชื่อมโยงระหว่างตัวเลขต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตไปจนถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องถึงรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงานต่างๆสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้อง ตามกฎหมายและเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนมากที่สุด”

เป้าหมายของรัฐบาลเวียดนามคือ ถึงปี 2020  เวียดนามจะมีตัวเมืองอัจฉริยะ 3 แห่งคือ กรุงฮานอย นครดานังและนครโฮจิมินห์ และต่อจากนั้นจังหวัดด่งนาย จังหวัดบิ่งเยือง จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า จังหวัดบั๊กนิงและเมืองท่าไฮฟอง เป็นต้น

จังหวัดด่งนายเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่มีอัตราการพัฒนาตัวเมืองที่รวดเร็วของเวียดนามโดยในหลายปีที่ผ่านมาทางจังหวัดฯได้ประยุกต์ใช้แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะในด้านระบบคมนาคมต่างๆ เช่น ติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบนรถเมล์ เครื่องควบคุมสัญญาณไฟจราจรและจัดตั้งศูนย์ควบคุมระบบการเจรจร เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่การสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะในเวลาที่จะถึง พันตำรวจตรี เจิ่นจ่องถวี ตำรวจจังหวัดด่งนายยืนยันว่า การติดตั้งระบบอัตโนมัติดังกล่าวคือการช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากร            “นี่คือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สามารถอัพเดทและวิเคราะห์ข้อมูลโดยอัตโนมัติเพื่อลงโทษผู้ที่ทำผิดกฎจราจร”

ส่วนการประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษาและบริหารจัดการน้ำเสียในสถานีสังเกตการณ์และสถานีเตือนภัยมลพิษก็ประสบผลที่น่ายินดี โดยเฉพาะนับตั้งแต่ปี 2018 หน่วยงานสาธารณสุขของจังหวัดด่งนายได้ทดลองใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบริหารการเก็บข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ ซึ่งทำให้การบริหารจัดการสต็อกยามีประสิทธภาพมากขึ้น รวมถึงช่วยดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนได้อย่างสมบูรณ์และต่อเนื่องตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิตและช่วยลดภาระที่ไม่จำเป็น เช่น การใช้สมุดบันทึกทางการแพทย์ การเก็บรักษาบันทึกสุขภาพ โดยในปัจจุบัน ทางจ.ได้ทำบันทึกสุขภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ประชาชน 3 ล้านคนและสถานที่ขายปลีกยาร้อยละ 80 ใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถเชื่อมโยงกัน สถานีอนามัยและโรงงานผลิตยาส่วนใหญ่เข้าร่วมเครือข่ายสาธารณสุข ซึ่งอำนวยความสะดวกเป็นอย่างมากให้แก่ประชาชนในการคลิ๊กเข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการด้านสาธารณสุข ดร.นายแพทย์ ฟานฮวีแองหวู ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดด่งนายเผยว่า ทางการจังหวัดจะพยายามพัฒนาสาธารณสุขอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์เพื่อรักษาโรคให้แก่ประชาชนโดยเร็ว            “นี่คือการปฏิวัติของหน่วยงานสาธารณสุข ถ้าหากจังหวัดด่งนายใช้โอกาสนี้ได้อย่างเต็มที่ เราจะให้บริการผู้ป่วยได้ดีที่สุด เราควรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยให้แพทย์ไม่ต้องเสียงเวลามากในการทำเอกสาเพื่อสงวนเวลาให้แก่การรักษาโรคมากขึ้น”

แม้ยังไม่เข้าร่วมโครงการพัฒนาตัวเมืองอัจฉริยะแต่สำนักงานและหน่วยงานต่างๆในจังหวัดด่งนายได้ประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ในการดำเนินเครื่อง เช่น รับเอกสารและปฏิบัติขั้นตอนระเบียบต่างผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยประชาชนและสถานประกอบการสามารถกลิ๊กเข้าไปเว็บไซต์พื่อค้นหาข้อมูลในด้านต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ การวางผังและการจดทะเบียนก่อตั้งสถานประกอบการ เป็นต้น โดยจังหวัดด่งนาย เป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่อัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับการวางผังที่ดินอย่างชัดเจนและเป็นรายละเอียดที่สุด ส่วนการวางแผน การลงทุน แรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคม ธนาคาร ภาษีและศุลกากร ก็ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อมุ่งสู่การยกระดับประสิทธิภาพในการให้บริการ

การสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะคือเป้าหมายที่ทุกท้องถิ่นของเวียดนาม รวมทั้งจังหวัดด่งนายกำลังมุ่งสู่ ดังนั้นการประยุกต์ใช้ดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานช่วยให้ทางการจ. สร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะที่เชื่อมโยง โดยถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ในด้านต่างๆเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น.

คำติชม