ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของยุโรป

Vân
Chia sẻ
(VOVWORLD) - วันที่ 21 มีนาคม ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ได้มีการเปิดการประชุมผู้นำ สหภาพยุโรปเป็นเวลา 2 วัน คาดว่า นอกจากปัญหาการถอนตัวจากอียูของอังกฤษ บรรดาผู้นำอียูจะหารือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของยุโรป ซึ่งเป็นความพยายามของอียูเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีภายในกลุ่มหลังจากที่การผลักดันการจัดตั้งกองทัพร่วมกำลังประสบความคืบหน้า
ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของยุโรป - ảnh 1 ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของยุโรป

เยอรมนีและฝรั่งเศสได้เสนอแผนการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยุโรป โดยยุโรปเป็นภูมิภาคที่พัฒนาอุตสาหกรรมเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆของโลก มีผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูง และเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น วิศวกรรมด้านโลหะ เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ การแปรรูปอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค

เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

นาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้เผยว่า ตนและนาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เสนอและหารือถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยุโรปควบคู่กับการแสวงหามาตรการต่างๆเพื่อค้ำประกันการสร้างงานทำในอนาคตและการสนับสนุนการประกอบธุรกิจเชิงยุทธศาสตร์ในยุโรป พร้อมทั้งกล่าวถึงโครงการพัฒนาและวิจัยยุทธศาสตร์ เช่น การที่เยอรมนีและฝรั่งเศสส่งเสริมการจัดตั้งสมาคมผลิตแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อสามารถแข่งขันกับคู่แข่งต่างๆในเอเชีย ซึ่งนางอังเกลา แมร์เคิลได้แสดงความหวังว่า จะร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสในการโน้มน้าวให้ประเทศสมาชิกอียูเห็นพ้องเกี่ยวกับแผนจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมยุโรปในการประชุมผู้นำอียูครั้งนี้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝรั่งเศสและเยอรมนี ซึ่งเป็น 2 ประเทศแถวหน้าของยุโรปกล่าวถึงแผนการดังกล่าว ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้เห็นพ้องเกี่ยวกับนโยบายด้านอุตสาหกรรมใหม่ของยุโรปเพื่อสนับสนุนบริษัทต่างๆในภูมิภาคในการแข่งขันกับคู่แข่งนอกกลุ่ม โดยทั้ง 2 ประเทศจะส่งเสริมการลงทุนในโครงการต่างๆที่มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับปรุงหลักการเกี่ยวกับการแข่งขันและจัดทำกลไกที่สนับสนุนการคุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญาและการพัฒนาเทคโนโลยีในภูมิภาค

ฝรั่งเศสและเยอรมนียังเสนอให้สภายุโรปและคณะผู้แทนถาวรประเทศสมาชิกยุโรปประจำอียู มีสิทธิ์วีโต้มติต่อต้านการผูกขาดของคณะกรรมการยุโรปในการฟ้องร้องตามกรณี พร้อมทั้งเสนอให้ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบรวมบริษัทต่างๆในปัจจุบันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทยุโรปทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวได้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการยุโรปได้มีมติยกเลิกการควบรวมกิจการระหว่างเครือบริษัทซีเมนส์ของเยอรมนีกับบริษัทอัลสตอม ของฝรั่งเศสเพื่อพัฒนาเป็นเครือบริษัทรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งต่างๆในโลกได้ ซึ่งเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม ในหลายปีมานี้ คณะกรรมการยุโรป หรือ อีซี ได้เสนอด้านต่างๆที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการพัฒนาอุตสาหกรรมยุโรป พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับบทบาทที่สำคัญของอุตสาหกรรมต่อการผลักดันการขยายตัวและสร้างงานทำและเผยว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคือสิ่งที่จำเป็นเพื่อเพิ่มผลผลิตของแรงงานผ่านการกำหนดรูปแบบการประกอบธุรกิจที่สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ นอกจากนี้ อีซียังได้จัดตั้งฟอรั่ม “นโยบายยุทธศาสตร์เกี่ยวกับสถานประกอบการดิจิตอล”เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีดิจิตอลให้แก่หน่วยงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการยุโรป

ในขณะเดียวกัน รายงานเกี่ยวกับนโยบายด้านอุตสาหกรรมปี 2012ของคณะกรรมการยุโรปได้ระบุถึง 6 ประเด็นที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งมี 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม 4.0 ประกอบด้วย เทคโนโลยีการประดิษฐ์และ เทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น วัตถุดิบอัจฉริยะ กระบวนการผลิตที่ให้ผลผลิตสูง เครือข่ายอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนเทคโนโลยีดิจิตอล

ความท้าทาย

ในสภาวการณ์ที่การปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0 กำลังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทั่วโลก ประเทศยุโรปไม่เพียงแต่ต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีเท่านั้น หากยังต้องลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมอีกด้วยเพราะยุโรปมีหน่วยงานอุตสาหกรรมใหม่หลายแห่งที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและได้รับการก่อสร้างในเขตไฮเทค แต่อย่างไรก็ตาม การโน้มน้าวให้ประเทศสมาชิกอียูอนุมัติยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยุโรปเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายนัก ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมของแต่ละประเทศ จุดแข็งด้านอุตสาหกรรมของภูมิภาคและการแข่งขันเพื่อครองส่วนแบ่งและผลประโยชน์ระดับชาติ

ยุโรปเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นต้นกำเนิดของการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งแผนการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยุโรปก็ไม่ใช่แผนการที่ขาดประสิทธิภาพ แต่เพื่อสามารถบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ที่สมบูรณ์ ผู้นำอียูจะต้องประชุมหารือกันอีกหลายครั้ง.

คำติชม